×

ประวิตร ตรวจแผนรับมวลน้ำที่สระบุรี หวั่นน้ำท่วมซ้ำ สั่งทุกหน่วยงานบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ

โดย THE STANDARD TEAM
15.08.2022
  • LOADING...
ประวิตร วงษ์สุวรรณ

วันนี้ (15 สิงหาคม) พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอํานวยการน้ําแห่งชาติ (กอนช.) พร้อมด้วย ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ลงพื้นที่ตรวจราชการเพื่อติดตามสถานการณ์น้ำ และการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคกลาง ณ จังหวัดสระบุรี 

 

ทั้งนี้มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคพลังประชารัฐ ได้แก่ กัลยา รุ่งวิจิตรชัย ส.ส. สระบุรี และ ประทวน สุทธิอำนวยเดช ส.ส. ลพบุรี ร่วมลงพื้นที่ เพื่อเตรียมความพร้อมกับสถานการณ์และแนวโน้มปริมาณฝนที่จะเพิ่มขึ้น ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาระบุว่า ในสัปดาห์นี้จะมีฝนตกหนักต่อเนื่อง หลังเมื่อสัปดาห์ที่แล้วหลายจังหวัดของภาคเหนือได้รับผลกระทบน้ำท่วมฉับพลันจากพายุโซนร้อนมู่หลาน

 

พล.อ. ประวิตรได้สั่งการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ร่วมกับกรมชลประทาน รวมทั้งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และฝ่ายปกครองระดับจังหวัด ดำเนินการให้เป็นไปตามแผนรับมือฤดูฝน 13 มาตรการ โดยให้ปรับปรุงกลไกการบริหารจัดการให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ 

 

เนื่องจากมีฝนตกหนักสะสมต่อเนื่องจากมรสุมในหลายพื้นที่ของประเทศ ส่งผลให้พื้นที่หลายจังหวัดมีน้ำท่วมขังสูง โดยเฉพาะพื้นที่ริมลำน้ำสายหลักยังคงต้องเฝ้าระวังและติดตามสภาพอากาศ แจ้งเตือนประชาชนให้ทันกับสถานการณ์ รวมทั้งให้การช่วยเหลือประชาชนทันที เน้นการมีส่วนร่วมมากขึ้น 

 

ทั้งนี้ ได้นำแผนการจัดการในระยะสั้นตาม 13 มาตรการรับมือฝน รวมทั้งแผนบริหารจัดการน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เพื่อระบายน้ำจากฝั่งตะวันออกแม่น้ำเจ้าพระยาให้ได้มากที่สุด เพื่อควบคุมไม่ให้เกินขีดจำกัดที่รับน้ำได้ เพื่อรับมือน้ำต่อเนื่องในภาคเหนือ-ใต้-ออก-ตก ที่ทำการเร่งระบายน้ำออกสู่ทะเล และการซ่อมคันกั้นน้ำบริเวณ 23 ขวา คลองชัยนาท-ป่าสัก โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเริงราง ในการรองรับปริมาณฝนที่เพิ่มขึ้น 

 

นอกจากนี้ยังได้ติดตามการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำป่าสักในเขตจังหวัดสระบุรี ซึ่งเป็นแผนระยะยาวที่จะสามารถแก้ปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้งให้กับประชาชนในพื้นที่จังหวัดสระบุรีและภาคกลางทั้งหมด ด้วยการบูรณาการทุกภาคส่วนอย่างมีประสิทธิภาพ

 

พล.อ. ประวิตรกล่าวว่า จังหวัดสระบุรีเป็นหนึ่งในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยของพายุเตี้ยนหมู่เมื่อปี 2564 ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบ และเกิดความเสียหายในชีวิตและทรัพย์สิน และในเดือนสิงหาคม-กันยายน คาดว่าจะมีฝนตกหนักในพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลาง จังหวัดสระบุรีจึงอาจจะได้รับผลกระทบซ้ำอีก จึงขอสั่งการให้ทุกหน่วยงานเร่งบูรณาการให้วางแผนบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบด้วยการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เพื่อเตรียมความจุในการรองรับน้ำฝน 

 

พร้อมทั้งเร่งซ่อมแซมคันกั้นน้ำทั้งหมดที่ได้รับความเสียหายจากปีที่แล้ว ที่ปริมาณฝนมากจนดินอุ้มน้ำ เกิดการกัดเซาะจนพังทลาย โดยทราบว่าเบื้องต้นใช้งบประมาณกว่า 3 ล้านบาทในการซ่อมแซมระยะสั้น ส่วนในระยะยาวที่จะต้องปรับปรุงประตูระบายน้ำทั้งสองฝั่ง ที่จะต้องใช้งบประมาณกว่า 145 ล้านบาท จะนำเรื่องเข้าพิจารณาว่าจะใช้งบใดได้บ้าง เนื่องจากจะทำให้การจัดการน้ำมีประสิทธิภาพทั้งในฤดูฝนและฤดูแล้ง รวมถึงการพิจารณาก่อสร้างเขื่อนริมน้ำป่าสัก เพื่อลดการพังทลายของตลิ่ง 

 

โดยในระยะสั้นจะต้องเป็นไปตามแผนรับมือ 13 มาตรการอย่างเคร่งครัด ส่วนในระยะยาวทุกหน่วยงานจะต้องเร่งดำเนินการตาม 9 แผนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา ควบคู่ไปกับกลไกการบริหารให้มีความเหมาะสม เพื่อประสิทธิภาพในการจัดการบริหารน้ำให้ดีที่สุด พร้อมสร้างการตระหนักรู้และความร่วมมือของประชาชนในพื้นที่ 

 

พล.อ. ประวิตรกล่าวต่อไปว่า ภายหลังจากที่ได้รับรายงาน และได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจความคืบหน้าการซ่อมแซมคันกั้นน้ำบริเวณ 23 ขวา คลองชัยนาท-ป่าสัก โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเริงราง อำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี ได้กำชับให้ดำเนินการปรับปรุงอย่างเร่งด่วน ให้ทันสถานการณ์ฝนที่อาจตกหนักในช่วงวันที่ 20 สิงหาคมนี้ 

 

รวมทั้งติดตามการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำป่าสัก พร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณวัดเชิงราก อำเภอเสาไห้ ซึ่งเป็นแผนจัดการน้ำท่วมระยะยาว ที่หากเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำป่าสักเสร็จเรียบร้อย ก็จะเป็นพื้นที่ที่สามารถแก้ปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้งได้อย่างเป็นระบบ

 

ทั้งนี้ การลงพื้นที่มีประชาชนมาคอยให้กำลังใจ และพูดคุยถึงปัญหาต่างๆ เบื้องต้นกับ พล.อ. ประวิตรด้วย

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising