จากปัญหาที่ปัจจุบันมีชาวต่างอาศัยอยู่ในประเทศไทยจำนวนมาก ซึ่งมีทั้งผู้ที่อยู่แบบถูกกฎหมายและผิดกฎหมายปะปนกันจนแยกออกได้ยาก
ล่าสุด พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงแผนการสั่งการให้ฝ่ายความมั่นคงทั้งทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ให้กวดขันจับกุมชาวต่างชาติที่พักอาศัยในไทยเกินระยะเวลาที่กำหนด หรือ Over Stay ให้หมดภายใน 1 เดือนว่าขณะนี้สามารถจับกุมได้แล้วกว่า 1,000 คน แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถระบุเป็นตัวเลขที่แน่ชัดถึงจำนวนคนที่อยู่เกินเวลาในไทยว่ามีทั้งหมดเท่าไร ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการปฏิบัติงานที่เจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการอยู่
โดยเริ่มจากการกำชับให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเร่งติดตามและบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังเพื่อเอาผิดกับชาวต่างชาติที่เข้ามาอาศัยในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือการอนุญาตสิ้นสุด หรือถูกเพิกถอนแล้ว รวมถึงเหล่าบุคคลต้องห้าม ซึ่งภาพรวมปัจจุบันพบข้อมูลของชาวต่างชาติตกค้างอยู่จำนวนมาก โดยต้องดำเนินการให้จบสิ้นภายใน 1 เดือนควบคู่กับการตรวจสอบประเภทการอนุญาตประกอบอาชีพของชาวต่างชาติในไทยให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งพบว่าเข้ามาแสวงประโยชน์ผิดประเภทจำนวนมากเช่นกัน
ซึ่งปฏิบัติการนี้ทำเพื่อดูแลความปลอดภัยของตัวนักท่องเที่ยว รวมไปถึงการเร่งกวาดล้างอาชญากรข้ามชาติที่เอารัดเอาเปรียบประชาชนโดยแฝงตัวเข้ามาในรูปนักท่องเที่ยวในทุกพื้นที่อย่างจริงจัง หลังจากประชาชนจำนวนมากสะท้อนถึงความกังวลที่มีต่อการรวมกลุ่มของชาวต่างชาติที่เข้ามาอาศัยและประกอบกิจการผิดสังเกตในหลายพื้นที่ชุมชนเมืองทั้งในเขตพื้นที่ กทม. และต่างจังหวัด
นอกจากนี้พลเอก ประวิตร ยังให้เร่งสถาปนารูปแบบของระบบการจัดเก็บข้อมูลอัตลักษณ์บุคคลที่เป็นระบบคัดกรองและการเชื่อมโยงข้อมูลการตรวจลงตราคนเข้าเมืองทางอิเล็กทรอนิกส์ในทุกช่องทางของด่านตรวจคนเข้าเมือง รวมถึงในเขตชายแดนและท่าอากาศยานต่างๆ เพื่อเป็นการบูรณาการบริหารจัดการฐานข้อมูลเดี่ยวและสอบทานร่วมกันกับกระทรวงต่างประเทศ
พร้อมย้ำว่าสิ่งนี้เป็นนโยบายที่เจ้าหน้าที่รัฐในทุกระดับของทุกหน่วยงานต้องทำงานด้วยความโปร่งใสโดยไม่มีการละเว้นการปฏิบัติหรือเรียกรับผลประโยชน์เด็ดขาด ขณะเดียวกันได้ขอความร่วมมือถึงประชาชนเพื่อร่วมกันสอดส่องพฤติการณ์ที่ผิดสังเกตของชาวต่างชาติในพื้นที่และแจ้งข้อมูลให้เจ้าหน้าที่รัฐทราบ เพื่อความปลอดภัยของทุกคนและการมีที่ยืนในสังคมที่เท่าเทียมกัน
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์