วันนี้ (12 กันยายน) พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ สันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ลงพื้นที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เพื่อมอบสิทธิที่ดินทำกิน ตรวจเยี่ยมความมั่นคงชายแดนไทย-เมียนมา รวมไปถึงการบริหารจัดการน้ำ
พล.อ. ประวิตร เดินทางมาถึงสนามบินแม่สอด มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคเศรษฐกิจไทยที่ออกจากพรรคพลังประชารัฐมาต้อนรับ เช่น ธนัสถ์ ทวีเกื้อกูลกิจ ส.ส. เขต 1 จังหวัดตาก, ภาคภูมิ บูลย์ประมุข ส.ส. เขต 3 จังหวัดตาก, จีรเดช ศรีวิราช ส.ส. เขต 2 จังหวัดพะเยา, ไผ่ ลิกค์ ส.ส. เขต 1 จังหวัดกำแพงเพชร และ ทัศนาพร เกษเมธีการุณ ส.ส. เขต 8 จังหวัดนครราชสีมา มารอต้อนรับ
จากนั้น พล.อ. ประวิตรเดินทางไปมอบสิทธิมอบสุขในที่ดินทำกิน หนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ประกอบด้วย ป่าช่องแคบและป่าแม่โกนเกน ป่าแม่ละเมา ป่าแม่สอด ป่าท่าสองยาง และป่าแม่ระกา พร้อมทั้งมอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินในชุมชนตามนโยบายรัฐบาล ในพื้นที่จังหวัดตาก ให้กับประชาชนในพื้นที่ป่าช่องแคบและป่าแม่โกนเกน จำนวน 1,231 เล่ม
ทันทีที่ พล.อ. ประวิตรมาถึง มีนักเรียนจากโรงเรียนสรรพวิทยาคม รวมไปถึงเด็กๆ ในพื้นที่มารอต้อนรับพร้อมชูป้ายให้กำลังใจ ‘เรารักปู่ป้อม’ รวมไปถึงมีชาวบ้านมารอต้อนรับประมาณ 100 คน พร้อมกับร้องเพลง สัญญาใจ พร้อมกับชูป้ายเรารักลุงป้อม และมอบดอกไม้ให้กำลังใจอีกด้วย โดย พล.อ. ประวิตรได้ร่วมปรบมือเข้าจังหวะกับเพลง กล่าวทักทายขอบคุณเด็กๆ ที่มารอต้อนรับ
พล.อ. ประวิตรกล่าวว่า วันนี้ตนและคณะลงมาเพื่อมอบกรรมสิทธิ์ที่ดินให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ เพื่อที่จะเข้าไปอยู่ในพื้นที่ป่าเสื่อมโทรม เพื่อให้มีที่ดินทำกินเป็นของตัวเอง รัฐบาลได้เล็งเห็นความสำคัญในการช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจนในเรื่องที่ดินทำกินมาโดยตลอด
รวมถึงได้ทำงานดำเนินการผ่านโครงการหน่วยงานของรัฐต่างๆ สถาบันบริหารจัดการที่ดินขององค์กรมหาชน คณะกรรมการบริหารนโยบายที่ดินแห่งชาติ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการในภารกิจการกระจายถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรมและยั่งยืน รัฐบาลดูแลมาโดยตลอด โดยการนำของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ทำงานให้กับประชาชนได้มีที่ทำกินมาโดยตลอดระยะเวลา 7-8 ปีที่ พล.อ. ประยุทธ์ได้ดำรงตำแหน่งมา และได้ทำงานให้กับทุกท่านมาโดยตลอด แก้ไขปัญหาเรื่องที่ดินทำกิน ที่อยู่อาศัย แก้ไขปัญหาจากการจำนองที่ดินขายฝากเพื่อให้เกษตรกรยังคงมีที่ดินทำกินของตนเอง ตลอดจนส่งเสริมการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างเต็มศักยภาพในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ พล.อ. ประวิตรยังระบุอีกว่า หน้าที่ของรัฐบาลคือทำให้ทุกคนในประเทศไทยมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ขัดเกลาจากการมีส่วนร่วมของหน่วยงานภาครัฐและภาคประชาชน รวมถึงภาคประชาสังคม เป็นการสะท้อนถึงการแก้ไขปัญหาโดยยึดมิติทางสังคมเป็นหลัก ไม่ใช่มิติด้านการเงินการธนาคารอย่างที่ผ่านมา
ทุกคนจงรับทราบว่าเราได้ร่วมกันทำงานเพื่อประชาชน ข้าราชการทุกคนได้ทำงานเพื่อประชาชน และตนอยากฝากข้าราชการว่า ข้าราชการไม่ใช่นายของประชาชน แต่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของประชาชน และเป็นหน้าที่ของข้าราชการทุกคนที่จะทำให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
พล.อ. ประวิตรยังระบุอีกว่า ประชาชนทุกคนเมื่อได้รับสิทธิในการถือครองที่ดินแล้ว จงมีความสุขกายสบายใจ ดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เพื่อเป็นแรงสนับสนุนให้รัฐบาลได้พัฒนาประเทศให้เกิดความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนตลอดไป ฝากรัฐบาลด้วย ประชาชนทุกคนจะอยู่ด้วยได้ด้วยก็รัฐบาล รัฐบาลจะอยู่ได้ก็ด้วยประชาชน ทุกคนที่ให้การสนับสนุนรัฐบาลอย่างมั่นคงและยั่งยืนตลอดไป
ขณะที่การลงพื้นที่ของ พล.อ. ประวิตร การรักษาความปลอดภัยยังคงยกระดับเทียบเท่านายกรัฐมนตรี มีการตรึงกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งทหารและตำรวจตลอดทั้งเส้นทาง โดยผู้ที่จะเข้าร่วมงานจะต้องมีการลงทะเบียนล่วงหน้ามาเท่านั้น นอกจากมีการตรวจค้นสัมภาระของผู้เข้าร่วมงานไม่ให้นำไฟแช็ก รวมไปถึงของมีคมเข้ามายังในพื้นที่ ส่วนบรรยากาศพื้นที่การจัดงานเป็นไปอย่างทุลักทุเลเนื่องจากมีฝนตกอยู่ตลอดเวลา ทำให้การเข้าพื้นที่มีความยากลำบาก รวมไปถึงทำให้รถหลายคันติดหล่ม
ผู้สื่อข่าวยังรายงานอีกว่า การลงพื้นที่ของ พล.อ. ประวิตรในวันนี้ใช้รถ Toyota Alphard สีขาว หมายเลขทะเบียน ฮ 7654 กรุงเทพมหานคร
หลังจากนั้น พล.อ. ประวิตร ในฐานะประธานคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) และผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ลงพื้นที่อ่างเก็บน้ำห้วยแม่สอด ตำบลพระธาตุผาแดง อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เพื่อตรวจติดตามสถานการณ์น้ำและโครงการพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่
โดยมี สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) นำเสนอสถานการณ์น้ำในภาพรวม และผู้แทนโครงการชลประทานจังหวัดตาก นำเสนอสถานการณ์น้ำในพื้นที่ พร้อมพบปะพี่น้องประชาชนและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในการทำงาน
ขณะที่สุรสีห์กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลความสำเร็จในการขับเคลื่อนแผนงาน/โครงการด้านน้ำของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดตาก ช่วงปี 2561-2564 มีทั้งสิ้น 588 โครงการ ความจุ 29.61 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) พื้นที่รับประโยชน์ 40,162 ไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์ 32,476 ครัวเรือน และพื้นที่ได้รับการป้องกัน 10,100 ไร่
นอกจากนี้ยังมีโครงการด้านน้ำที่สำคัญ ปี 2566-2567 จำนวน 8 โครงการ เพิ่มปริมาณน้ำเก็บกัก 28.83 ล้าน ลบ.ม. พื้นที่รับประโยชน์ 13,935 ไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์ 3,765 ครัวเรือน พื้นที่ได้รับการป้องกัน 2,506 ไร่