วันนี้ (20 มิถุนายน) ที่ทำการพรรคประชารัฐ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ออกแถลงการณ์ถึงจุดยืนพรรคหลังจากที่มีการประชุมกรรมการบริหารครั้งที่ 13/2568 ภายหลังจากเกิดเหตุการณ์ที่มีการเผยแพร่การสนทนา ระหว่างนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร และสมเด็จฮุน เซน ประธานพฤฒสภากัมพูชา เมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา
จากนั้น เวลา 14.00 น. พล.อ. ประวิตร พร้อมกรรมการบริหารพรรค อาทิ ไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ สันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรค, ตรีนุช เทียนทอง สส. สระแก้ว และรองหัวหน้าพรรค, ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค รวมถึง สส. ของพรรค แถลงถึงจุดยืนของพรรคว่า พรรคพลังประชารัฐขอยืนยันว่าจะไม่ร่วมรัฐบาลอย่างเด็ดขาด โดยจะเป็นพรรคฝ่ายค้านที่มีศักดิ์ศรีและคุณภาพ เพื่อประชาชนขอให้เข้าใจตามนี้ ส่วนของเรื่องคลิปเสียงที่หลุดออกมานั้น ไม่ว่าใครเป็นผู้อัดก็ไม่สามารถเผยแพร่ได้ เพราะเป็นการละเมิดสิทธิของแต่ละบุคคล
พล.อ. ประวิตร ยังกล่าวถึงสิ่งที่นายกรัฐมนตรีพูดว่า สิ่งที่ผู้นำประเทศพูดกับใครก็แล้วแต่ที่หมิ่นศักดิ์ศรีคนไทย ประเทศชาติขาดความมั่นคง และความศรัทธาของประชาชน โดยผู้นำประเทศเป็นผู้ที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนคนไทยทุกคน ผู้นำประเทศคนนั้นจะต้องรับผิดชอบคำพูดของตนเอง ด้วยการลาออก
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีการพยายามติดต่อจากพรรคเพื่อไทยร่วมรัฐบาลหรือไม่ พล.อ. ประวิตรกล่าวว่า ก็เรื่องของคนขอ แต่สำหรับไม่ร่วม และมันไม่เกี่ยวกัน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ขอมานานหรือยัง พล.อ. ประวิตร ตอบว่า “ก็เรื่องของผม ผมไม่บอกคุณ”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีจาก แพทองธาร ชินวัตร เป็น พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ รับได้หรือไม่ พล.อ. ประวิตร กล่าวว่า ก็บอกว่าไม่ร่วม
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ถ้ามีการเปลี่ยนตัวนายกฯ ก็จะไม่ร่วมใช่หรือไม่ พล.อ. ประวิตร กล่าวว่า ไม่ร่วมๆ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการพูดคุย มีการติดต่อจากพรรคภูมิใจไทยมาบ้างหรือไม่ พล.อ. ประวิตร ไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ได้พูดคุยกับ อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยบ้างหรือไม่ พล.อ. ประวิตร กล่าวว่า “คุย แล้วจะทำไม”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า คุยเรื่องไหนบ้าง พล.อ. ประวิตร ไม่ได้ตอบและเดินทางกลับทันที