วันนี้ (29 ตุลาคม) ที่พรรคพลังประชารัฐ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐประจำสัปดาห์ ถึงความเป็นสมาชิกพรรคของ สามารถ เจนชัยจิตรวนิช หลังพบว่าเข้าไปพัวพันกับคดีบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ว่า “เขาออกไปแล้ว ลาออกไปแล้ว”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ลาออกไปช่วงไหน พล.อ. ประวิตร กล่าวว่า “สัปดาห์ที่แล้ว” ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าหลังลาออกจากตำแหน่งรองโฆษกพรรคใช่หรือไม่ พล.อ. ประวิตร กล่าวว่า “กกต. เขาส่งมาแล้ว” ก่อนจะย้ำว่าสามารถลาออกเอง
ขณะที่ ไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า สามารถยื่นใบลาออกจากสมาชิกพรรคต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคมโดยที่ไม่ได้แจ้งพรรค ขณะที่หนังสือลาออกมาถึงพรรคในวันนี้
ทั้งนี้ ในที่ประชุมพรรคมีการพูดคุยเรื่องของสามารถ แต่เนื่องจากมีหนังสือลาออกจากสมาชิกพรรคของสามารถส่งมา พรรคจึงมีมติรับทราบ ทำให้พรรคไม่ต้องใช้มติพรรคในการขับสามารถออก
โฆษกพลังประชารัฐยัน ผู้ใหญ่ในพรรคไม่ใช่เทวดาดิไอคอน
ขณะที่ พล.ต.ท. ปิยะ ต๊ะวิชัย ทีมโฆษกพรรคพลังประชารัฐ แถลงเพิ่มเติมถึงกรณีพรรคพลังประชารัฐถูกพาดพิงว่า เป็นเทวดาที่เกี่ยวข้องกับคดีบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด โดยระบุถึง สามารถ เจนชัยจิตรวนิช ที่มีเรื่องเกิดขึ้นเมื่อ 3-4 สัปดาห์ก่อน และมีความพยายามพาดพิงผู้ใหญ่ในพรรคพลังประชารัฐเกี่ยวกับเงิน 31 ล้านบาท วันนี้พิสูจน์แล้วว่าเงินจำนวนดังกล่าวไม่ได้มีการจ่ายจริง
ทั้งยังมีความพยายามใช้ข้อมูลอันเป็นเท็จเพื่อให้สังคมและประชาชนเข้าใจผิด คิดว่าผู้ใหญ่ของพรรคพลังประชารัฐมีส่วนเกี่ยวข้องกับจีนเทาหรือหุ้น 21% หรือเป็นนอมินี โดยใช้นามว่า จินดา แซ่ก๊อก เป็นข้อมูลอันเป็นเท็จ ผลปรากฏว่าจินดาคือมารดาของบอสพอล วันนี้เวรกรรมมีจริง และทนายโจรรับวิบากกรรมไปตามสิ่งที่ได้กระทำมา
ส่วนที่ประชาชนและสื่อมวลชนถามหาว่าใครคือเทวดาตัวจริง หากดูสตอรีจะพบว่าเบอร์หนึ่งคือบอสพอล เบอร์สองคือบอสแซม ซึ่งเป็นอดีตผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้สมัคร สส. เขต 14 พรรคเพื่อไทย
นอกจากนั้น หนึ่งในผู้ให้การสนับสนุนบริษัทดิไอคอนยังเป็นเจ้าของรายการ และเป็นพิธีกรรายการที่เกี่ยวข้องกับคนอายุน้อย ใช้ชื่อว่า ‘บอสก้อง’ เคยนำผู้บริหารของบริษัทดิไอคอนมาออกรายการ และเชิญชวนให้ประชาชนไปสมัครเป็นสมาชิกของบริษัท โดยบอสก้องยังเป็นผู้สมัคร สส. พรรคเพื่อไทย มีความสนิทสนมกับผู้ใหญ่ของพรรคเพื่อไทย และมีการลงทุนในบางกิจกรรมร่วมกันด้วย
หากย้อนกลับไปดูข้อมูลปี 2562-2567 จะพบว่า ประธานคณะกรรมาธิการการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร อักษรย่อ ม มาจากพรรคเพื่อไทย จังหวัดชัยภูมิ เลขาคณะกรรมาธิการการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร ขณะนี้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการในคณะรัฐมนตรีของ แพทองธาร ชินวัตร ไม่ทราบว่า วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้สืบสวนสอบสวนเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมาหรือไม่
ส่วนเรื่องบริษัทดิไอคอนเคยมีการร้องเรียนผ่านคณะอนุกรรมาธิการการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร และเรื่องถูกส่งไปยังคณะกรรมาธิการการคุ้มครองผู้บริโภค ก่อนจะจบลงอย่างไม่มีอะไร หากวันนั้นมีการดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา ผู้เสียหายคงมีจำนวนไม่มากเท่ากับทุกวันนี้
สำหรับเทวดาที่เกี่ยวข้อง มีบุคคลที่มีอักษรย่อ ก, ธ, ส, ต, ต และ จ่า บุคคลทั้ง 6 คนมีความใกล้ชิดและเกี่ยวข้องกับนักการเมืองที่ร่วมรัฐบาล เป็นนักการเมืองที่อยู่ในพรรคเพื่อไทยเกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ‘ส, ฮ, ด’ เดาไม่ยากว่าเทวดาที่อยู่ข้างหลังเป็นใคร
นอกจากนี้ จากประวัติของสามารถเมื่อปี 2557 เป็นผู้อำนวยการศูนย์ร้องทุกข์ของกลุ่มสามมิตร ปี 2562 ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม จึงเป็นที่มาของเสียงในคลิปต่างๆ ที่บอกว่าสามารถแต่งตั้งบุคคลให้เข้าดำรงตำแหน่งในกรมสอบสวนคดีพิเศษได้
พล.ต.ท. ปิยะ กล่าวต่อว่า ผู้ที่เป็นตัวแปรสำคัญคือผู้สอบบัญชีบริษัทดิไอคอน โดยตั้งคำถามว่ารอดจากการตรวจสอบของกรมสรรพากรได้อย่างไร 6-7 ปี บริษัทใดเป็นผู้สอบบัญชี มีความสนิทสนมกับผู้หนึ่งผู้ใดในรัฐบาลปัจจุบันหรือไม่