×

‘รฦกแห่งที่รัก จากเหลนแด่ทวด’ ย้อนระลึกถึงบุคคลสำคัญและสยามประเทศวันวาน ผ่านตัวอักษรที่ร้อยเรียงเป็นหนังสือชีวประวัติ [Advertorial]

โดย THE STANDARD TEAM
07.01.2020
  • LOADING...
รฦกแห่งที่รัก จากเหลนแด่ทวด

HIGHLIGHTS

5 Mins. Read
  • รฦกแห่งที่รัก จากเหลนแด่ทวด หนังสือชีวประวัติเล่มแรกที่มีการรวบรวมภาพและเอกสารสำคัญเกี่ยวกับพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประวิตรวัฒโนดม กรมหลวงปราจิณกิติบดี พระราชโอรสพระองค์ที่ 15 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เขียนโดยเหลน สรวิช ภิรมย์ภักดี ถวายแด่ทวดในวโรกาสครบรอบ 100 ปี วันสิ้นพระชนม์ ในวันที่ 9 ธันวาคม 2562

 

 

ร่วมน้อมรำลึก 100 ปี ของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประวิตรวัฒโนดม กรมหลวงปราจิณกิติบดี พระราชโอรสพระองค์ที่ 15 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ในฐานะที่ สรวิช ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท พิพิธภัณฑ์สิงห์ จำกัด ซึ่งเป็นเหลนในพระองค์เจ้าประวิตรฯ สืบเชื้อสายผ่านทางมารดาคือ ท่านผู้หญิงเหมือนจิต ภิรมย์ภักดี ได้รับเอกสารเก่าแก่ที่สืบทอดมา และได้เก็บสะสมหลักฐานต่างๆ รวมทั้งรูปภาพที่เกี่ยวข้องกับพระองค์เจ้าประวิตรฯ มาเป็นระยะหนึ่ง จึงเห็นควรที่จะรวบรวมเป็นรูปเล่ม เพื่อเล่าพระประวัติให้คนไทยรุ่นหลังได้ทราบถึงบทบาทสำคัญของพระองค์ที่มีต่อสยามประเทศ เช่นนั้นแล้ว นี่จึงเป็นหนังสือชีวประวัติอีกเล่มที่คนไทยควรได้อ่าน

 

THE STANDARD ขอทำหน้าที่เป็นส่วนเล็กๆ ถ่ายทอดไฮไลต์สำคัญของ รฦกแห่งที่รัก จากเหลนแด่ทวด หนังสือที่จะกลายเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญทางประวัติศาสตร์ของคนไทย 

 

รฦกแห่งที่รัก จากเหลนแด่ทวด

 

ภาพถ่ายและเอกสารสำคัญกว่า 340 ชิ้น ที่ปรากฏอยู่ในหนังสือเล่มนี้ ถูกร้อยเรียงให้เป็นดั่งภาพประวัติศาสตร์ที่เล่าชีวประวัติของพระองค์เจ้าประวิตรฯ ตลอดพระชนม์ชีพระหว่าง พ.ศ. 2418-2462 เทียบเคียงไปกับเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นมากมายในประเทศไทยยุคนั้น เช่น ในปีที่พระองค์เจ้าประวิตรฯ ประสูตร ได้มีการส่งโทรเลขสำเร็จเป็นครั้งแรกในสยาม จากกรุงเทพฯ ไปปากน้ำ (สมุทรปราการ) หรือเหตุการณ์ที่สยามทำสงครามปราบฮ่อเป็นครั้งแรก ฯลฯ 

 

เชื่อว่าคนไทยน้อยคนนักที่จะทราบว่า พระองค์เจ้าประวิตรฯ หนึ่งในสี่พระราชโอรสพระองค์โตในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีบทบาทสำคัญต่อประเทศชาติอย่างมาก พระองค์ทรงงานอยู่เบื้องหลังฉากมาโดยตลอด ทรงใช้ชีวิตการงานอยู่ในกรมราชเลขาธิการตลอดพระชนม์ชีพ รวม 23 ปี ภายใต้ 2 รัชกาล เริ่มต้นจากช่วยทรงพระอักษรให้พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และได้รับพระราชทานตราตั้งเป็นสภานายกกรรมสัมปาทิกหอพระสมุดวชิรญาณเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2439  

 

กรมหลวงปราจิณกิติบดี

 

บทบาทหน้าที่ของพระองค์ที่ได้รับมอบหมาย ทั้งการแปลเอกสาร งานเลขานุการพระมหากษัตริย์และสมเด็จพระราชินีนาถ งานเขียน งานแปลระดับอินเตอร์ เลขานุการคณะรีเยนต์ องคมนตรี เป็นล่ามอังกฤษและฝรั่งเศส งานรับราชอาคันตุกะ จนถึงส่งของและสั่งตัดเย็บเสื้อผ้าของพระเจ้าแผ่นดิน เมื่อเทียบเคียงกับเหตุการณ์บ้านเมืองในยุคนั้น โดยเฉพาะความสัมพันธ์กับต่างประเทศ ทำให้เห็นถึงพระปรีชาสามารถของพระองค์ ที่เป็นดั่งผู้เชื่อมโยงทุกอย่างให้กลายเป็นสัมพันธภาพไมตรีของประเทศไทยกับนานาประเทศ

 

กรมหลวงปราจิณกิติบดี 

ภาพบรรยากาศงานเปิดตัวหนังสือ รฦกแห่งที่รัก จากเหลนแด่ทวด

 

ส่วนสำคัญและทรงคุณค่าที่สุดในหนังสือเล่มนี้คือ เอกสารสำคัญพระราชหัตถเลขา พระบรมราโชวาทพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานคำสอนพระราชโอรสทั้งสี่ก่อนไปเรียนเมืองนอก พระองค์ให้โอวาทเรื่องการวางตัวอย่างเหมาะสม ไม่ถือตนว่าเป็นลูกเจ้าลูกแผ่นดิน การใช้สอยเงินทองอย่างรู้คุณค่าของเงินแผ่นดิน และอย่าใช้เงินเกินตัว หรือการเรียนภาษาที่สาม ต้องไม่ลืมภาษาไทย 

 

กรมหลวงปราจิณกิติบดี

 

ความหนึ่งในเอกสาร “การซึ่งจะให้ออกไปเรียนครั้งนี้มีความประสงค์มุ่งหมายแต่จะให้ได้วิชาความรู้อย่างเดียว ไม่มั่นหมายจะให้เป็นเกียรติยศชื่อเสียงอย่างหนึ่งอย่างใดในชั้น ซึ่งยังเป็นผู้เรียนวิชาอยู่นี้เลย เพราะฉะนั้นที่จะไปครั้งนี้ อย่าให้ไว้ยศว่าเป็นเจ้า ให้ถือเอาบรรดาศักดิ์เสมอลูกผู้มีตระกูลในสยาม

  

“อย่าตื่นตัวเองว่าได้ไปร่ำเรียนภาษาฝรั่งแล้วลืมภาษาไทย กลับเห็นเป็นการเก๋การกี๋อย่างเช่นนักเรียนบางคนมักจะเห็นผิดไปดังนั้น แต่ที่จริงเป็นการเสียที่ควรจะติเตียนแท้ทีเดียว เพราะเหตุฉะนั้น ในเวลาที่ออกไปเรียนวิชาอยู่ ขอบังคับให้เขียนหนังสือถึงพ่อทุกคน อย่างน้อยเดือนละฉบับ เมื่อเวลายังเขียนหนังสืออังกฤษไม่ได้ ก็เขียนมาเป็นหนังสือไทย”

  

แม้จะเป็นหนังสือชีวประวัติที่เขียนขึ้นเพื่อระลึกถึงพระองค์เจ้าประวิตรฯ เป็นสำคัญ แต่สรวิชยังสอดแทรกชีวประวัติโดยย่อของบุคคลที่ใกล้ชิดกับพระองค์ ครอบครัว พระสหาย และยังนำเสนอแง่มุมอันเป็นประโยชน์อื่นๆ ที่คนไทยควรรู้ เช่น การแลกเปลี่ยนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ นามสกุลพระราชทาน และที่มาของการจัดตั้งจิตรลดาสโมสร ฯลฯ 

 

กล่าวว่า หนังสือเล่มนี้จะเป็นดั่งหลักฐานชิ้นสำคัญทางประวัติศาสตร์ของคนไทยก็ไม่เกินไปนัก เพราะตลอดทั้งเล่ม ผู้เขียนนำเอกสาร ภาพถ่ายเก่าแก่หาดูยาก ไปจนถึงพระราชหัตถเลขารัชกาลที่ 5 เช่น พระราชหัตถเลขาที่ทรงตั้งพระนามพระราชโอรสที่ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาแช่ม หรือพระราชหัตถเลขารัชกาลที่ 5 ถึงแก่พระองค์เจ้าประวิตรฯ ที่ทรงให้แปลเอกสารจากภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษ รวมถึงเอกสารสำคัญอย่างโทรเลขที่ส่งมาสอบถามเรื่องต่างๆ ตามงาน ทรงสั่งงาน และเอกสารสำคัญอย่างงานแปลเกี่ยวกับกล้องบันทึกภาพของเยอรมนีที่เรียกว่า Alto-Stereo Quart ยาว 11 หน้า เป็นลายพระหัตถ์ของพระองค์  

 

ตอนหนึ่งในหนังสือ สรวิชสอดแทรกกำหนดการโดยสังเขป การมาเยือนสยามของราชอาคันตุกะ พร้อมเล่าเหตุการณ์โดยสังเขปถึงการมาเยือนของแขกบ้านแขกเมือง หรือภาพถ่ายเหตุการณ์สำคัญเมื่อครั้ง ดุ๊กโยฮัน อาลเบรชต์ เยือนสยาม พ.ศ. 2452 รวมไปถึงภาพวาดทิวทัศน์กรุงสยาม ที่ตีพิมพ์หน้าปกหนังสือพิมพ์ Le Petit Journal ฉบับวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2436 เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงสัมพันธภาพอันดีระหว่างสยามและชาติอื่นๆ 

 

รฦกแห่งที่รัก จากเหลนแด่ทวด

 

ทุกตัวอักษรที่ถอดความจากเอกสารสำคัญใน รฦกแห่งที่รัก จากเหลนแด่ทวด เล่มนี้จึงไม่ได้ทำหน้าที่เป็นแค่หนังสือชีวประวัติบุคคลสำคัญ หากยังสะท้อนให้เห็นถึงสยามประเทศในยุคสมัยนั้น ตอนหนึ่งในคำนำ สรวิชเล่าว่า หลังจากได้เก็บรวบรวมเอกสารสำคัญ ทั้งจากที่เป็นมรดกตกทอดจากบรรพบุรุษก็ดี จากคนใกล้ชิดก็ดี หรือที่ค้นหาเพิ่มเติมจากหอจดหมายเหตุก็ดี พบว่า มีหลายคนที่ถามถึงพระประวัติของพระองค์เจ้าประวิตรฯ ซึ่งเป็นพระองค์เดียวในพระโอรส 4 พระองค์โตในรัชกาลที่ 5 ที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึง และยิ่งผู้เขียนได้ค้นคว้าเรื่องราวในช่วงชีวิตของพระองค์ ก็เห็นไปถึงภาพของประเทศชาติในยุคสมัยนั้น ยุคที่คนทั่วไปยังไม่ได้มีโอกาสเดินทางออกนอกประเทศเช่นสมัยนี้ สื่อสิ่งพิมพ์จึงมีความหมายมากในการเปิดโลกทัศน์ของประชาชน 

 

ตลอด 10 ปี ในการเก็บรวบรวมข้อมูล และอีก 3 ปี เพื่อเตรียมข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้อง แล้วจึงใช้เวลาอีก 2 ปี ในการเรียบเรียงจนเสร็จสมบูรณ์ กลายเป็นหนังสืออันทรงคุณค่าจากเหลนถวายแด่ทวดด้วยความรักและระลึกถึง ในวโรกาสครบรอบ 100 ปี และเพื่อมอบให้เป็นของขวัญแด่ชาวไทยได้ย้อนระลึกถึงบุคคลสำคัญของไทย ได้ย้อนกลับไปเห็นเมืองไทยในอดีต และได้ภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ชาติไทย 

 

หากยิ่งรู้จักอดีตมากเท่าไร ยิ่งรู้จักตัวตนของเรามากเท่านั้น 

FYI
  • หนังสือ รฦกแห่งที่รัก จากเหลนแด่ทวด จัดพิมพ์โดยบริษัท พิพิธภัณฑ์สิงห์ จำกัด สนับสนุนโดยบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด 
  • วางจำหน่ายที่ Open House Bookshop By Hardcover ชั้น 6 เซ็นทรัล เอ็มบาสซี, ศูนย์หนังสือจุฬาฯ, ร้านหนังสือ Kinokuniya, Asia Books และ www.singhaonlineshop.com ราคา 679 บาท  
  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X