วันนี้ (24 สิงหาคม) ส.ส. กลุ่มดาวฤกษ์ พรรคพลังประชารัฐ นำโดย มาดามเดียร์-วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส. บัญชีรายชื่อ, ภาดาท์ วรกานนท์ ส.ส. กทม. เขตพญาไท-ราชเทวี-จตุจักร, ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ ส.ส. กทม. เขตบางกะปิ-วังทองหลาง และ ศิริพงษ์ รัสมี ส.ส. กทม. เขตหนองจอก ลงพื้นที่ชุมชนบุญร่มไทร ซอยเพชรบุรี 7 เพื่อรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนชุมชนริมทางรถไฟมักกะสัน จากกรณีการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. ขอเวนคืนที่ดินเพื่อก่อสร้าง Hub รถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อ 3 สนามบิน ได้แก่ สนามบินอู่ตะเภา สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมือง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC โดยมีชุมชนได้รับผลกระทบ 26 ชุมชน แต่ได้รับผลกระทบแบบเร่งด่วน 12 ชุมชน จำนวน 2,366 ครัวเรือน
โดยตัวแทนของชุมชนต้องการให้ รฟท. ชี้แจงความชัดเจนในเรื่องของระยะเวลาที่จะต้องย้ายออกและการเยียวยาที่จะได้รับ ให้หยุดดำเนินคดีกับชาวบ้านที่เดือดร้อนแล้วมาพูดคุยเพื่อหาข้อยุติ รวมถึงขอแบ่งพื้นที่บางส่วนของ รฟท. ในจำนวน 500 ไร่ให้ประชาชนได้อยู่อาศัย
วทันยากล่าวว่า จากการรับฟังปัญหาของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการเวนคืนที่ดินของ รฟท. ซึ่งจะต้องส่งมอบพื้นที่ให้กับเอกชนผู้ชนะการประมูลในการพัฒนามักกะสันคอมเพล็กซ์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ EEC ในการเชื่อมโยง 3 สนามบิน โดยในปัจจุบันชาวบ้านเดือดร้อนจากปัญหาโควิด-19 และตอนนี้ยังจะต้องถูกขับไล่ออกจากพื้นที่ จึงเดือดร้อนมาก ในขณะเดียวกันก็เข้าใจเรื่องการเดินหน้าโครงการ ดังนั้นในฐานะ ส.ส. จึงจะนำปัญหาความเดือดร้อนนี้เข้าหารือกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องในการหาทางออกเยียวยาให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบ ก่อนที่ รฟท. จะต้องส่งมอบพื้นที่ให้เอกชนตามกำหนด
ด้าน ภาดาท์ กล่าวว่า ข้อเรียกร้องที่ชาวบ้านฝากมานั้น คือระยะเวลาที่ชัดเจนว่า รฟท. จะใช้พื้นที่เมื่อไร และเป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีหน่วยงานเข้ามาดูแลจัดหาที่อยู่ใหม่ให้ รวมทั้งขอให้ยุติการฟ้องร้องและหาทางออกร่วมกัน
“หลังจากนี้จะให้ชาวบ้านยื่นหนังสือต่อคณะกรรมาธิการการสวัสดิการสังคมฯ และดำเนินการต่อไป รวมทั้งจะนำไปหารือในที่ประชุมสภา และยื่นกระทู้ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมต่อไป เพราะ ส.ส. มีหน้าที่ในการประสานความทุกข์ร้อนของชาวบ้านไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองได้ เพราะไม่มีอำนาจ ดังนั้นสิ่งที่จะทำได้ดีที่สุดคือการติดตามปัญหาและทวงถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม” ภาดาท์กล่าว
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า