วันนี้ (11 มกราคม) สันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยวิรัช รัตนเศรษฐ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค แถลงเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 4 ภาคของพรรค จำนวน 28 คน โดยกล่าวต้อนรับว่าที่ผู้สมัครว่า วันนี้เป็นวาระสำคัญอีกครั้งหนึ่งของพรรค ที่มีผู้ร่วมอุดมการณ์ อาสารับเลือกตั้ง และมีเจตจำนงเดียวกับพรรค เพื่อมาช่วยเหลือประชาชน ที่จะสามารถนำไปสู่การพัฒนาท้องถิ่น เพื่อให้ทุกพื้นที่มีการยกระดับศักยภาพได้ตรงตามความประสงค์ของประชาชนในท้องถิ่น โดยเพิ่มศักยภาพในกลุ่มเป้าหมายต่างๆ
“วันนี้เป็นวันเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. รวม 28 คน 19 จังหวัด ที่ผ่านมาพรรคพลังประชารัฐ และการมีผู้นำเป็น พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค นับเป็นที่พึ่งของประชาชน ในการมีนโยบายในการพัฒนาประเทศที่มีจุดมุ่งหมายให้ประชาชนกินดีอยู่ดี มีเงินใช้ และตลอดเวลา 3 ปีที่ผ่านมา เป็นที่ประจักษ์ว่ ได้ให้ความสำคัญกับการดูแลเรื่องน้ำ ที่ทำกิน การศึกษา โดยเฉพาะการดูแลรากหญ้า โดยผลักดันให้เกิดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่สามารถกระจายสู่ประชาชนอย่างทั่วถึง แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดที่ผ่านมา หัวหน้าพรรคได้พยายามผลักดันผ่านกลไกของรัฐบาล เพื่อประคองเศรษฐกิจของประเทศ โดยการเตรียมงบประมาณ ซื้อยา สินค้าอุปโภคบริโภค เพื่อบรรเทาผลกระทบ ซึ่งทำให้ประเทศสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว” สันติกล่าว
สำหรับบุคลากรที่มีคุณภาพที่รับอาสามาเป็นว่าที่ผู้สมัครจำนวน 28 คน ประกอบด้วย
พื้นที่ภาคอีสาน
- จังหวัดอุบลราชธานี: ณรงค์ศักดิ์ โกศัลวัฒน์
- จังหวัดอำนาจเจริญ: วิชัย บุญเสริฐ
- จังหวัดนครราชสีมา: วีระวัฒน์ มิตรสูงเนิน
- จังหวัดชัยภูมิ: นพ.ประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ และ สุนทรี ชัยวิรัตนะ
- จังหวัดนครพนม: สรวิศิษฏ์ เสมอพิทักษ์
พื้นที่ภาคกลาง
- จังหวัดอ่างทอง: โชคชัย ทองศักดิ์ และ สุกัญญา ขำวงษ์
- จังหวัดพระนครศรีอยุธยา: บุญเชิด ศิริยศ, ธนพร บุญเจริญกิจ, ชณทัต ปัทะมะภูวดล และ วันชัย จุฑานพรัตน์
- จังหวัดนนทบุรี: พลวัตร บรรดาศักดิ์
- จังหวัดนครปฐม: มารุต บุญมี
- จังหวัดนครสวรรค์: สุภัสสร คล้ายแจ้ง
พื้นที่ภาคเหนือ
- จังหวัดเชียงใหม่: สง่า มังคละ และ กุสุมา บัวพันธ์
- จังหวัดเชียงราย: เกียรติศักดิ์ อุดขา, ระพิณ เตมิยะ และ บรรจง ยางยืน
- จังหวัดตาก: ประสงค์ นามเสถียร และ พ.ต.ท. อนุรักษ์ จิรจิตร
- จังหวัดพิษณุโลก: หัสนัยน์ สอนสิทธิ์
พื้นที่ภาคใต้
- จังหวัดยะลา: กอเซ็ง แซมะซู
- จังหวัดปัตตานี: รุสดี สารอเอง
- จังหวัดนราธิวาส: นพ.แวมาฮาดี แวดาโอะ
- จังหวัดสงขลา: ภวัต นิตย์โชติ
นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่ออีก 1 คนคือ รัฐชัย คงเกียรติคีรี
ด้านวิรัชกล่าวว่า ได้มีการพูดคุยกับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ทุกคน และเห็นความตั้งใจและกระตือรือร้นของว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ของพลังประชารัฐ ทุกคนมีความต้องการจะดูแลประชาชน อยากจะเข้าไปในพื้นที่ ต้องการจะเป็นตัวแทน วันนี้ตนถามทุกคนว่าเพื่ออะไร ทุกคนตอบเหมือนกันว่าขอให้ใจบันดาลแรง เพื่อที่จะให้ พล.อ. ประวิตร เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ของประเทศไทย เวลานี้ในประเทศไทยไม่มีใครเหมาะสมเกิน พล.อ. ประวิตร เมื่อการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาพรรคสามารถสร้างนายกฯ มาแล้ว 1 คน ครั้งนี้ตนคุยกับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ทั้งหมด เราจะต้องสร้างนายกฯ อีกครั้ง การจะสร้างได้ทุกคนต้องสามารถเอาชัยชนะกลับมาให้ได้มากที่สุด
วิรัชกล่าวอีกว่า พล.อ. ประวิตร เป็นหัวหน้าพรรคที่มีประสบการณ์และผลงานสูงสุด เป็นรองนายกฯ มาแล้วหลายรอบ ไม่ต่ำกว่า 8 ปี เคยเป็นผู้บัญชาการทหารบก, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตั้งแต่รัฐบาลไทยรักไทย, รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะเห็นว่าความสามารถและประสบการณ์สูงสุดนี้ เมื่อเทียบกับหลายท่านแล้ว ดูแล้วถือว่าอยู่แนวหน้าในประเทศไทย และท่านมีความสามารถเป็นนายกฯ ได้แน่นอน เพราะท่านรักษาการนายกฯ มาแล้วไม่รู้กี่ครั้ง และล่าสุดรักษาการนานถึง 38 วัน ไม่เพียงแค่พร้อม แต่เป็นได้ ทำได้ และทำมาแล้ว ผลงานเป็นที่ประจักษ์ ตลอดระยะเวลา 38 วันที่ท่านรักษาการนายกฯ
นอกจากนี้ยังสร้างผลงานสำคัญในช่วงระยะเวลาที่ พล.อ. ประวิตร เป็นรองนายกฯ ทั้งภัยแล้ง จนมีคำพูดติดปากว่า มีเราไม่มีแล้ง, การแก้ไขปัญหาน้ำท่วม การป้องกันน้ำท่วมเมื่อปี 2565 ให้น้ำไม่เข้ามากรุงเทพมหานคร ผลงานเหล่านี้ท่านทำจริงจัง อีกทั้งยังมีเรื่องการป้องกันการค้ามนุษย์ ที่ได้รับการยอมรับจากทุกประเทศ เลื่อนลำดับในขั้นแนวหน้าการป้องกันการค้ามนุษย์ และยังมีอีกหลายเรื่องที่จะนำเสนอต่อไป ด้วยเหตุผลเหล่านี้ เราจะมาร่วมใจกันใจบันดาลแรงให้ พล.อ. ประวิตรเป็นนายกฯ คนที่ 30
