สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะทำงานประสานงานพรรคร่วมในการจัดทำนโยบายรัฐบาล กล่าวถึงความคืบหน้าในการจัดทำร่างนโยบายว่าขณะนี้ได้มีการนำนโยบายของพรรคร่วมทั้งหมดมาทำเป็นร่าง ซึ่งร่างแรกเสร็จแล้ว โดยใช้เวลาค่อนข้างนานเพราะเป็นการขึ้นโครง และหลังจาก 2-3 วันจะนำเข้าที่ประชุมพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อหารือให้นโยบายนำมาปฏิบัติได้จริงและพิจารณางบประมาณในการทำงาน โดยจะเร่งรัดให้เสร็จทันตามกรอบเวลาเพื่อแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อที่ประชุมรัฐสภา ซึ่งทุกนโยบายไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ รวมไปถึงนโยบายกัญชาเสรี จะต้องมีการพูดคุยให้เห็นพ้องร่วมกันในรัฐบาล เพราะเป็นรัฐบาลผสม จึงไม่สามารถที่จะทำนโยบายใด นโยบายหนึ่งได้เพียงลำพัง
ส่วนเรื่องนโยบายการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 425 บาท สนธิรัตน์กล่าวว่าเป้าหมายที่แท้จริงคือการยกระดับฝีมือแรงงาน ซึ่งต้องปรับทั้งระบบแรงงานไทยจึงจะสามารถขึ้นค่าแรงให้สูงตามคุณภาพฝีมือแรงงาน ไม่เช่นนั้นจะไม่สอดคล้องกับเทคโนโลยีและตลาดแรงงานในปัจจุบัน
ส่วนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐซึ่งเป็นนโยบายหลักในการหาเสียงจะมีการปรับปรุงอย่างแน่นอน แต่ต้องหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลก่อนเพื่อให้ได้ข้อสรุปตรงกัน โดยนโยบายเร่งด่วนของพรรคพลังประชารัฐที่จะเสนอต่อที่ประชุมพรรคร่วมรัฐบาลคือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและราคาสินค้าเกษตร เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงนโยบายมารดาประชารัฐ สนธิรัตน์ตอบว่าก็เป็นนโยบายสำคัญนโยบายหนึ่งที่พรรคหาเสียงไว้เช่นกัน ซึ่งคาดว่าภายในสัปดาห์นี้จะมีความคืบหน้า และสัปดาห์หน้าจะเสนอนายกรัฐมนตรีให้พิจารณา
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงผู้ที่ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีต้องลาออกจากการเป็น ส.ส. หรือไม่ สนธิรัตน์ตอบว่าน่าจะมีการหารือกันวันนี้ว่าจะให้สมัครใจหรือเป็นมติพรรค แต่เป็นเรื่องภายในพรรคซึ่งมีวิธีการของพรรคอยู่แล้ว ไม่ยาก ส่วนเรื่องการแต่งตั้งผู้ช่วยและเลขาธิการของรัฐมนตรียังไม่ถึงขั้นตั้งคณะทำงาน เพราะยังไม่โปรดเกล้าฯ ขณะที่เรื่องความขัดแย้งภายในพรรคที่มีสมาชิกจำนวนหนึ่งจะยื่นหนังสือไล่ตนออก สนธิรัตน์ตอบว่าเป็นเรื่องปกติ ไม่ต้องชี้แจงอะไรแล้ว และตอนนี้สามารถพูดคุยและมองหน้ากันได้ปกติ เรื่องทุกอย่างจบไปแล้ว ส่วนกระแสข่าวการเปลี่ยนหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรคนั้นตนไม่ทราบ กรรมการบริหารพรรคทุกคนก็ยังทำงานอยู่
ภาพ: พรรคพลังประชารัฐ
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์