ค่า เงินปอนด์ ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 37 ปีเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อวานนี้ (7 กันยายน) ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่พุ่งทะยานอย่างรวดเร็ว และภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอของอังกฤษ จนทำให้ค่าเงินปอนด์ร่วงทำสถิติอ่อนค่าแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 1985
โดยค่าเงินปอนด์ร่วงลงสู่ระดับ 1.1407 ดอลลาร์ในการซื้อ-ขายช่วงบ่ายในตลาดลอนดอนเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นระดับที่ไม่เคยมีมาก่อนในรอบ 37 ปี
บทความที่เกี่ยวข้อง
- 10 อันดับ สกุลเงินเอเชีย ที่อ่อนค่าสูงสุดนับจากต้นปี 2565
- ‘จีน’ ผนึก ‘รัสเซีย’ ดันสกุลเงินกลุ่ม BRICS เป็นทางเลือกชำระเงิน หวังคานอำนาจดอลลาร์สหรัฐ
- แบงก์ชาติ เมียนมา สั่งบริษัทและประชาชนระงับจ่ายคืนหนี้ต่างประเทศ เพื่อรักษาระดับทุนสำรอง หลังสกุลเงินอ่อนค่าลง 1 ใน 3
นักวิเคราะห์มองว่าสาเหตุที่เงินปอนด์ร่วงหนักเป็นผลจากการถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ จากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ บวกกับความกังวลของนักลงทุนที่มีต่อทิศทางนโยบายของผู้นำคนใหม่ของอังกฤษ ซึ่งจะมีผลต่อสถานะทางการคลังของประเทศ เนื่องจากมีนโยบายปรับลดอัตราภาษี รวมทั้งออกมาตรการเพื่อช่วยเหลือภาคครัวเรือนของอังกฤษ
ทางด้านธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจอังกฤษจะเผชิญภาวะถดถอยยาวนานกว่า 1 ปี โดยจะเข้าสู่ภาวะถดถอยตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปี 2022 จนถึงสิ้นปี 2023 และเศรษฐกิจอังกฤษจะเผชิญภาวะถดถอยนานถึง 5 ไตรมาส ซึ่งเป็นช่วงเวลายาวนานที่สุดนับตั้งแต่ที่เศรษฐกิจโลกเผชิญวิกฤตการเงิน โดยรายได้ในภาคครัวเรือนของอังกฤษจะทรุดตัวลงอย่างหนักในปี 2022-2023 ขณะที่การบริโภคเริ่มหดตัว
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP