นักวิ่งทีมชาติ, มือสังหารจอห์น เลนนอน, ผู้หญิงติดยา, โจ๊กเกอร์ อาชญากรหัวเขียว คือหนึ่งสัดส่วนเพียงเล็กน้อยของบทบาทตัวละครที่ถูกถ่ายทอดโดยชายหนุ่มตาสีฟ้าเป็นประกาย ที่ขึ้นชื่อเรื่องความ ‘ทุ่มเท’ และอุทิศชีวิตให้กับการแสดง จาเร็ด เลโต
จาเร็ด โจเซฟ เลโต เกิดเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 1971 ด้วยความที่คุณแม่เป็นนักเคลื่อนไหวกิจกรรมของกลุ่ม ‘ฮิปปี้’ ทำให้ชีวิตวัยเด็กของเขารายล้อมไปด้วย นักดนตรี จิตรกร ช่างภาพ และนักแสดงละครเวที ฯลฯ และค่อยๆ ซึมซับความรักในงานศิลปะตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ในปี 1992 จาเรดในวัย 21 ปี ตัดสินใจเดินทางไปยังแคลิฟอร์เนีย เพื่อเริ่มต้นชีวิตการเป็นนักแสดงอย่างจริงจัง โดยได้รับงานเป็นตัวประกอบในซีรีส์หลายเรื่อง จนมาแจ้งเกิดอย่างเป็นทางการจากการรับบทนำในซีรีส์เรื่อง My So-Called Life (1994-1995) และได้แสดงภาพยนตร์เรื่องแรกคือ How to Make an American Quilt (1995)
ในปี 1997 จาเร็ดเริ่มโชว์ให้เห็นถึงความตั้งใจและทุ่มเทให้กับการแสดง ด้วยการซ้อมวิ่งมาราธอนนาน 6 สัปดาห์ ศึกษา เลียนเสียง ท่าทางการวิ่ง เพื่อสวมบทเป็น สตีฟ พรีฟอนเทน นักวิ่งทีมชาติสหรัฐอเมริกาให้สมจริงที่สุด ในหนังอัตชีวประวัติเรื่อง Prefontaine
และช่วงเวลาไล่เลี่ยกันเขาก็เริ่มฟอร์มวงร็อก 30 Seconds to Mars ขึ้นมาร่วมกับพี่ชายของเขาในปี 1998 พร้อมกับรับหน้าที่เป็นนักร้องนำ และแต่งเพลงหลักให้กับวง จนกลายเป็นอีกหนึ่งวงร็อกที่มีผลงานน่าจับตา และมีเพลงฮิตที่โด่งดังไปทั่วโลก อย่างเช่น The Kill (Bury Me), Closer to the Edge, This is War, A Beautiful Lie, Kings and Queens, Up in the Air ฯลฯ
หลังจากนั้นจาเร็ดก็มีผลงานการแสดงอย่างต่อเนื่อง เช่น Urban Legend (1998), Fight Club (1999), American Psycho (2000), Sol Goode (2001), Panic Room (2002) ไร่เรียงมาแทบทุกปี
และเขาก็ยังคงเป็นสัญลักษณ์ของนักแสดงที่ทุ่มเทสุดตัวและหัวใจเพื่อเข้าถึงบทบาท เช่น ยอมไปใช้ชีวิตข้างถนน งดมีเพศสัมพันธ์เป็นเวลา 2 เดือน ลดน้ำหนักลง 28 ปอนด์ เพื่อรับบทเด็กหนุ่มติดยาใน Requiem for a Dream (2000), เพิ่มน้ำหนัก 67 ปอนด์ เพื่อรับบท เดวิด แชปแมน มือสังหาร จอห์น เลนนอน ใน Chapter 27 (2007) ก่อนที่จะทำให้เขาป่วยเป็นโรคเกาต์
รวมทั้งการพัฒนาตัวเองไปอีกขั้น ที่จาเร็ดต้องลดลงน้ำหนักลงอีก 30 ปอนด์, กันคิ้วและแว็กซ์ขนออกทั้งตัว เพื่อรับบทเป็นรายอน ผู้หญิงทรานส์เจนเดอร์ที่ติดยา และเป็นผู้ติดเชื้อ HIV ที่อาการทรุดลงเรื่อยๆ ทั้งความทุ่มเทและการแสดงที่ทรงพลัง ทำให้เขากวาดรางวัลสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม จากเวที Screen Actors Guilds Awards, Golden Globes และ Academy Awards มาได้สำเร็จ
มาจนถึงบทบาท โจ๊กเกอร์ อาชญากรโรคจิตใน Suicide Squad (2016) ที่เขาพยายามทำตัวสันโดษ ไม่พูดคุยกับใครในกองถ่าย เพื่อรักษาคาแรกเตอร์ลึกลับของโจ๊กเกอร์เอาไว้ รวมทั้งส่งซากหนูตายให้กับ มาร์โกต์ ร็อบบี ที่รับบท ฮาร์ลีย์ ควินน์ คู่กับเขา รวมทั้งเพื่อนนักแสดงคนอื่นๆ ล้วนได้รับของขวัญสุดสะพรึงจากจาเร็ด (ที่ตอนนั้นใช้วิธีคิดแบบโจ๊กเกอร์) กันถ้วนหน้า
แต่เนื่องจากภาพยนตร์ Suicide Squad ถูกโจมตีมากพอสมควร กับการดำเนินเรื่องที่ไม่สนุก และไม่เข้มข้นตามที่แฟนๆ ภาพยนตร์คาดหวัง รวมทั้งบทภาพยนตร์ที่พูดถึงโจ๊กเกอร์เพียงเล็กน้อย ทำให้ตัวละครของจาเร็ดถูกลูกหลง และถูกหลายคนพยายามมองข้ามไปอย่างน่าเสียดาย ทั้งๆ ที่ถ้าวัดกันจากความสามารถทางการแสดงล้วนๆ เขาก็ทำให้โจ๊กเกอร์เวอร์ชันนี้น่าจดจำได้ไม่แพ้สิ่งที่รุ่นพี่ทำเอาไว้เหมือนกัน
