ถ้าพูดถึงซีรีส์ที่เป็นกระแสมากที่สุด ณ ทศวรรษนี้ คงยากจะหาเรื่องไหนมาเทียบเคียง Game of Thrones ซึ่งซีซันสุดท้ายเพิ่งเปิดฉากฉายตอนแรกไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา นับเป็นซีรีส์มหัศจรรย์อีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งสร้างปรากฏการณ์ไปทั่วโลก โดยมียอดผู้ชมสูงขึ้นในทุกซีซัน นอกจากนี้ยังมีงานสร้างสุดอลังการ ซึ่งอาศัยงบประมาณมหาศาลไม่แพ้ทุนสร้างหนังฟอร์มยักษ์
ซีรีส์รังสรรค์โดย เดวิด เบนิออฟฟ์ และ ดี.บี. ไวส์ ซึ่งดัดแปลงเรื่องราวมาจากชุดวรรณกรรมแฟนตาซีของ จอร์จ อาร์.อาร์. มาร์ติน ที่ชื่อ A Song of Ice and Fire ออกอากาศครั้งแรกทางช่อง HBO เมื่อวันที่ 17 เมษายน ปี 2011 นำแสดงโดยทัพนักแสดงเซตใหญ่อย่าง ปีเตอร์ ดิงก์เลจ, ลีน่า เฮดดี้, นิโคไล คอสเตอร์-วัลดาอู, เอมิเลีย คลาร์ก, คิต แฮร์ริงตัน, โซฟี เทอร์เนอร์, เมซี วิลเลียมส์ และอีกมากมาย ซึ่งหลายคนก็ได้อานิสงส์ความดังของซีรีส์ ช่วยเบิกทางให้เป็นที่รู้จักในวงการ
Game of Thrones กล่าวถึงเวสเทอรอส ดินแดนซึ่งฤดูร้อนและฤดูหนาวกินเวลายาวนานหลายทศวรรษ โดยเรื่องราวที่เกิดขึ้นถูกแบ่งคร่าวๆ ออกเป็นสามเส้นเรื่องย่อยที่จะค่อยๆ มาบรรจบกันในตอนท้าย ได้แก่ การแก่งแย่งแข่งขันชิง ‘บัลลังก์เหล็ก’ ระหว่างตระกูลชนชั้นสูงต่างๆ ซึ่งนำมาสู่ความขัดแย้ง การหักหลัง ชิงไหวชิงพริบ และความรุนแรง เรื่องราวของทายาทคนสุดท้ายแห่งเชื้อสายกษัตริย์ ผู้ถูกเนรเทศไปดินแดนห่างไกลทางตะวันออก กับความมุ่งมั่นแรงกล้าที่จะกลับมาทวงบัลลังก์อันเป็นสิทธิ์โดยชอบ และเรื่องราวของกองทหารในดินแดนทางเหนือ ซึ่งต้องเผชิญหน้ากับภัยคุกคามจากอดีตที่กำลังคลืบคลานมาสู่อาณาจักร
Game of Thrones ประสบความสำเร็จยิ่งกว่าถล่มทลาย โดยมียอดผู้ชมเฉลี่ยต่อตอนพุ่งสูงขึ้นจาก 2.52 ล้านวิวในซีซัน 1 ถึง 10.26 ล้านวิวในซีซัน 7 นอกจากนี้ยังเป็นที่ชื่นชอบของเหล่านักวิจารณ์ที่ต่างยกย่องงานโปรดักชัน ตัวละครอันซับซ้อน และพล็อตเรื่องชวนติดตาม การันตีโดยการเป็นซีรีส์โทรทัศน์ที่ชนะรางวัล Emmys มากที่สุดในประวัติศาสตร์ถึง 47 รางวัล
ภาพ: @GameOfThrones / Facebook