แม้จะผ่านการต่อสู้ ศัตรู และสมรภูมิมาแล้วไม่รู้กี่ครั้ง แต่ทีมฮีโร่มนุษย์กลายพันธ์ุอย่างเอ็กซ์เมนก็ไม่เคยล้มเหลวในภารกิจหรือทำให้เหล่าแฟนๆ ต้องผิดหวัง ด้วยพลังเหนือมนุษย์สุดตระการตา ความสามัคคี และทีมเวิร์ก อันเป็นเอกลักษณ์สำคัญที่ทำให้แฟรนไชส์ X-Men อยู่คู่กับผู้ชมมานานเกือบ 2 ทศวรรษ โดยในปี 2016 เหล่าเอ็กซ์เมนต้องพบเจอกับภารกิจครั้งใหม่ที่ท้าทายกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา และมีโลกเป็นเดิมพันใน X-Men: Apocalypse
เรื่องราวใน X-Men ภาคนี้ถือเป็นอีกหนึ่งอีเวนต์จากมาร์เวลคอมิกส์ที่สนุกที่สุด เนื่องจากทีมเอ็กซ์เมนจะต้องต่อกรกับคู่อริคนใหม่ที่เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในมนุษย์กลายพันธ์ุที่แข็งแกร่งที่สุในโลกอย่าง เอน ซาบาห์ เนอร์ หรืออะโพคาลิปส์ มนุษย์กลายพันธุ์คนแรกผู้มีชีวิตย้อนกลับไปไกลถึงยุคอียิปต์โบราณ ซึ่งเขาถูกเทิดทูนเป็นพระเจ้าด้วยความสามารถในการรวบรวมพลังจากมนุษย์กลายพันธุ์คนอื่นๆ กระทั่งเกิดเหตุทำให้อะโพคาลิปส์ต้องหลับใหลไปนานกว่าพันปี ก่อนตื่นมาพบโลกใหม่ที่ไม่เป็นดังใจเขา อะโพคาลิปส์จึงรวบรวมพรรคพวกเพื่อหวังจะจัดระเบียบโลกใหม่ เป็นเหตุให้ เรเวน หรือมิสทีก ต้องกลับมาร่วมมือกับโปรเฟสเซอร์เอ็กซ์ นำทีมเอ็กซ์เมนรุ่นใหม่ออกปฏิบัติภารกิจเพื่อช่วยโลก
X-Men: Apocalypse ฉายรอบปฐมทัศน์เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2016 ณ กรุงลอนดอน โดยได้เจ้าเก่าอย่าง ไบรอัน ซิงเกอร์ มานั่งแท่นผู้กำกับ นำแสดงโดยทีมนักแสดงที่แฟนๆ คุ้นเคยอย่าง เจมส์ แม็กอะวอย, ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์, เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์, นิโคลัส ฮอลต์ เสริมทัพด้วยนักแสดงหน้าใหม่ที่มารับบทสำคัญในวัยเด็กที่กลับมาเปิดตัวอีกครั้งในภาคนี้อย่าง โซฟี เทอร์เนอร์ ในบท จีน เกรย์, ไท เชอริแดน ในบท ไซคลอปส์ และอเล็กซานดร้า ชิปป์ ในบท สตอร์ม
X-Men: Apocalypse ประสบความสำเร็จพอสมควร โดยกวาดเงินทั่วโลกไปกว่า 543.9 ล้านเหรียญสหรัฐ จากทุนสร้าง 178 ล้านเหรียญสหรัฐ พร้อมยังได้รับคำชมในเรื่องของธีมและฝีมือการแสดง ซึ่งภาคต่อไปอย่าง X-Men: Dark Phoenix ก็มีกำหนดเข้าฉายบ้านเราในวันที่ 6 มิถุนายนที่จะถึงนี้
ภาพ: GodzillaMovies / Facebook