ย้อนกลับไปเมื่อเกือบ 50 ปีก่อน ในช่วงเช้าของวันที่ 8 ตุลาคม ณ กองถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง อินทรีทอง ดำเนินมาถึงฉากสุดท้ายที่ มิตร ชัยบัญชา ผู้รับบทอินทรีแดง หรือ โรม ฤทธิไกร ต้องหลบหนีการตามล่าของผู้ร้าย ด้วยการโหนขึ้นบันไดเชือกจากเฮลิคอปเตอร์ และได้กลายเป็น ‘ฉากสุดท้าย’ ในชีวิตของพระเอกอันดับหนึ่ง ที่นำความเศร้าโศกมาเยือนจิตใจของคนไทยทั้งประเทศ
มิตร ชัยบัญชา เริ่มต้นชีวิตในฐานะ ‘พระเอกภาพยนตร์ไทย’ ใน พ.ศ. 2501 จากภาพยนตร์เรื่อง ชาติเสือ และแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวจากบทโรม ฤทธิไกร ในภาพยนตร์เรื่อง จ้าวนักเลง (อินทรีแดง) ภาพยนตร์เรื่องที่สองที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ทำเงินไปได้มากกว่า 1 ล้านบาทในสมัยนั้น
ก่อนที่มิตรจะขึ้นแท่นเป็นพระเอกอันดับหนึ่งแห่งยุค มีผลงานระดับตำนานอย่าง แสงสูรย์ (2503), ใจเพชร (2506), นกน้อย (2507), สิงห์ล่าสิงห์ (2507), เงิน เงิน เงิน (2508), เพชรตัดเพชร (2509), แสนรัก (2510) ฯลฯ
มีผลงานในจักรวาลอินทรีแดงกับบทโรม ฤทธิไกร อีก 5 เรื่อง คือ ทับสมิงคลา (2505), อวสานอินทรีแดง (2506), ปีศาจดำ (2509), จ้าวอินทรี (2511) และอินทรีทอง ที่มิตรรับหน้าที่เป็นผู้กำกับ และแสดงนำด้วยตัวเอง นับเป็นผลงานภาพยนตร์เรื่องที่ 266 ในชีวิต และเป็นผลงานสุดท้ายที่เขาได้ฝากไว้กับวงการภาพยนตร์ไทย
โดยฉากสุดท้ายที่เกิดเหตุ ทีมงานได้ยกกองไปถ่ายทำที่หาดดงตาล พัทยาใต้ จังหวัดชลบุรี เนื่องจากความไม่พร้อมบางประการ มิตรตัดสินใจถ่ายทำฉากโหนบันไดเชือกด้วยตัวเอง โดยไม่ใช้สแตนด์อิน
กระทั่งเกิดความผิดพลาด เมื่อเฮลิคอปเตอร์ถูกปล่อยขึ้นฟ้าขณะที่ยังไม่ได้ก้าวขาขึ้นบันได มิตรแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการเอาสลิงที่เหลืออยู่มาพันข้อมือซ้ายไว้เพื่อเป็นตัวล็อกป้องกันมือหลุดในเวลาที่หมดแรง แต่สุดท้ายเขาก็ร่วงลงมากระแทกพื้น ระบุเวลาเสียชีวิตตอนประมาณ 16.13 น.
ร่างของมิตร ชัยบัญชา ถูกตั้งบำเพ็ญกุศลไว้ที่วัดแคนางเลิ้ง เป็นเวลา 100 วัน ซึ่งมีผู้คนจากทั่วประเทศไทยหลั่งไหลเข้ามาร่วมงานมากกว่า 3 แสนคน จนถูกจารึกว่าเป็นงานศพของบุคคลธรรมดาที่มีผู้เข้าร่วมงานมากที่สุดเป็นประวัติกาล
แสดงให้เห็นถึงความรัก ความอาลัย ของพระเอกอันดับหนึ่งของวงการภาพยนตร์ไทยที่ไม่อาจหาผู้ใดเทียบเคียง ไม่ใช่แค่เฉพาะหน้าตา และฝีมือการแสดงที่ยอดเยี่ยม
แต่มิตรยังได้รับการยกย่องในฐานะ ‘พระเอกนักบุญ’ ผู้ริเริ่ม ‘กฐินดารา’ รวบรวมเงินบริจาคเพื่อสาธารณกุศลด้านต่างๆ และถ้าเพื่อนในวงการเดือดร้อน เขาจะเป็น ‘มิตร’ คนแรกๆ ที่ให้ความช่วยเหลืออยู่เสมอ
และการจากไปของเขาในปี พ.ศ. 2513 ทำให้ในปีต่อมาเกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของวงการภาพยนตร์ ที่เหลือนักแสดงพระเอกหลักๆ เพียงแค่ สมบัติ เมทะนี, ไชยา สุริยัน และลือชัย นฤนาท
ทำให้ในปี พ.ศ. 2514 มีพระเอกหน้าใหม่อย่าง สรพงษ์ ชาตรี, กรุง ศรีวิไล, นาท ภูวนัย, ยอดชาย เมฆสุวรรณ, ไพโรจน์ ใจสิงห์, ขวัญชัย สุริยา, ชัช ชัยบัญชา และรพินทร์ ไพรวัลย์ เกิดขึ้นมาพร้อมกันทีเดียวถึง 8 คน
อย่างที่กรุง ศรีวิไล เคยพูดเอาไว้ว่า “ถ้าไม่มีวันนั้นเกิดขึ้น ก็คงไม่มีพระเอกเหล่านี้เกิดตามมาเช่นเดียวกัน”
อ้างอิง:
- www.facebook.com/thestandardth/photos/a.1725541161072102/1979934762299406/?type=3&theater
- www.silpa-mag.com/this-day-in-history/article_20895
- www.facebook.com/ThaiMoviePosters/posts/1321899997975007/
- th.wikipedia.org/wiki/มิตร_ชัยบัญชา