หลังจากที่เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์และตั้งคำถามตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า เพราะเหตุใดโป๊ปฟรานซิส ประมุขของศาสนจักรโรมันคาทอลิกจึงเลี่ยงที่จะไม่เอ่ยชื่อ ‘โรฮีนจา’ ขณะเสด็จเยือนเมียนมา ล่าสุดเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พระองค์ได้ทรงออกมาเผยถึงสาเหตุดังกล่าว
โดยพระองค์ทรงให้เหตุผลว่า “ถ้าเราใช้คำว่าโรฮีนจาโดยตรงในการกล่าวอย่างเป็นทางการที่นั่น อาจจะเป็นการพังประตู(ทางออกของปัญหา)นี้ก็เป็นได้ และก่อนที่เราจะเดินทาง เราก็เคยเจาะจงถึงชนกลุ่มนี้ จึงถือว่าเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว
โป๊ปฟรานซิสเสด็จเยือนเมียนมาเป็นเวลา 4 วัน โดยได้พบกับนางออง ซาน ซูจี ผู้นำประเทศ และนายพลมินอองหล่าย ผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพเมียนมา เพื่อพูดคุยและแสดงความกังวลต่อวิกฤตการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา
“สำหรับเรา สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือข้อความที่ได้สื่อออกไป เป็นการพบปะกันที่ดี มีอารยะ และเขาก็รับรู้ถึงข้อความที่เราได้สื่อสารไป” นอกจากนี้พระองค์ยังทรงยืนยันว่าการพูดคุยกันไม่ทำให้ใครเสียประโยชน์ มีแต่จะยิ่งช่วยค้นหาทางออกและสร้างความเข้าใจระหว่างกันให้มากขึ้น
หลังจากนั้นพระองค์ได้เสด็จเยือนบังกลาเทศและพบกับตัวแทนชาวโรฮีนจา 16 คน ที่ตัดสินใจเดินทางอพยพลี้ภัยมาจากรัฐยะไข่ของเมียนมา โดยพระองค์ทรงเผยว่ารู้สึกเสียพระทัยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ปัจจุบันมีชาวโรฮีนจามากกว่า 600,000 คน ตัดสินใจอพยพมายังบังกลาเทศนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และคาดว่าตัวเลขนี้จะเพิ่มจำนวนมากขึ้นอีก แม้รัฐบาลเมียนมายืนยันจะส่งเสริมให้ชาวโรฮีนจาพลัดถิ่นเหล่านี้กลับมาตั้งรกรากที่เมียนมาได้ตามเดิมก็ตาม
อย่างน้อยที่สุด การเสด็จเยือนของประมุขคริสตจักรในครั้งนี้ก็เป็นการแสดงให้เห็นว่าทั่วโลกกำลังเฝ้าจับตามองสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับชาวโรฮีนจาอย่างใกล้ชิด และหวังว่าความโหดร้ายนี้จะยุติลงโดยเร็ว
อ้างอิง:
