เลือดสาด, สะใจ, บทสนทนายาวเหยียด รุนแรง ดูเหมือนพูดไปเรื่อยๆ แต่ก็คมคายแบบสุดๆ, กล้า ‘เขียน’ และเปลี่ยนประวัติศาสตร์ให้เป็นไปตามต้องการเมื่ออยู่ในโลกภาพยนตร์ คือคุณสมบัติโดดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ ยากที่จะหาใครเลียนแบบของผู้กำกับ ‘จอมแสบ’ ที่ชื่อ เควนติน ทารันติโน
เควนตินเกิดที่รัฐเทนเนสซี เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 1963 เริ่มหลงรัก ‘ภาพยนตร์’ มาตั้งแต่เด็ก เขาดูภาพยนตร์ทุกเรื่อง และเริ่มเขียนบทภาพยนตร์ครั้งแรกตั้งแต่อายุ 14 ปี (Captain Peachfuzz and the Anchovy Bandit) เมื่ออายุ 15 ปีก็ลาออกจากโรงเรียนเพื่อไปทำงานใน ‘โรงภาพยนตร์ผู้ใหญ่’
หลังจากนั้นเมื่ออายุ 20 ต้นๆ เควนตินเริ่มทำงานที่ร้านเช่าวิดีโอแห่งหนึ่งที่ชานเมืองย่านลอสแอนเจลิส ซึ่งนับว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เขาได้ดูภาพยนตร์เป็นจำนวนมาก จนหลายคนยกให้เขาเป็น ‘สารานุกรมภาพยนตร์เคลื่อนที่’ ที่ตอบคำถามและแนะนำภาพยนตร์ให้ลูกค้าได้แทบทั้งหมด
เมื่อสั่งสมประสบการณ์ ‘รับชม’ มากพอ เขาก็เริ่มคิดที่จะเป็นคนเขียนบทและ ‘กำกับ’ ภาพยนตร์ด้วยตัวเอง แต่ในช่วงแรกไม่มีบริษัทใดยอมรับบทของเขา โดยให้เหตุผลว่า ‘รุนแรง’ เกินไป
ระหว่างที่กำลังเก็บตัวเขียนบทเรื่อง Pulp Fiction อยู่ๆ เขาก็เกิดไอเดียเกี่ยวกับโจรกลุ่มหนึ่ง จนกลายเป็นบทภาพยนตร์ Reservoir Dogs (1992) ที่ถูกใจ ฮาร์วีย์ ไคเทล นักแสดงชื่อดังในยุคนั้นเป็นอย่างมาก ถึงขนาดช่วยผลักดันเรื่องเงินทุนและสนับสนุนให้เควนตินที่ไม่เคยมีผลงานอะไรมาก่อนเป็นผู้กำกับเรื่องนี้ด้วยตัวเอง กลายเป็นภาพยนตร์นอกกระแสทุนต่ำที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากในเทศกาลภาพยนตร์ซันแดนซ์ และทำให้ให้โลกภาพยนตร์รู้จักชื่อ เควนติน ทารันติโน อย่างเป็นทางการครั้งแรก
หลังจากนั้นเควนตินก็กลับมาพัฒนาบท Pulp Fiction (1994) ที่ทำค้างเอาไว้จนสำเร็จ และกลายเป็นการแจ้งเกิดรวมทั้งตอกย้ำความสามารถของผู้กำกับหน้าใหม่ ‘สไตล์จัด’ คนนี้ได้อย่างเต็มตัว หลังจากทำรายได้ไปมากถึง 213.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากทุนสร้างเพียงแค่ 8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ 7 สาขา รวมทั้งสาขาใหญ่อย่างภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ผู้กำกับยอดเยี่ยม และเควนตินสามารถคว้ารางวัลบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยมมาครองได้สำเร็จ
หลังจากนั้นเควนตินก็เดินหน้าสร้างภาพยนตร์ที่ตอกย้ำลายเซ็นของเขาในทุกๆ ผลงาน เช่น Jackie Brown (1997), Kill Bill: Volume 1-2 (2003-2004), Death Proof (2007), Inglourious Basterds (2009), Django Unchained (2012), The Hateful Eight (2015) และผลงานล่าสุด Once Upon a Time…in Hollywood (2019) ที่มีชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์มากถึง 10 สาขา และเป็นอีกครั้งที่เควนตินคว้ารางวัลบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยมมาครองได้สำเร็จ
นอกจากการสร้างภาพยนตร์ของตัวเอง เควนตินยังเป็นคนที่มักจะให้โอกาสผู้กำกับจากฝั่งเอเชียอยู่เสมอ ตั้งแต่เป็นคนที่นำ Chungking Express ของผู้กำกับ หว่องกาไว ไปฉายที่อเมริกา และเป็นคนที่ บงจุนโฮ ผู้กำกับรางวัลออสการ์ปีล่าสุดจากเรื่อง Parasite พูดบนเวทีว่า ในวันที่ยังไม่ค่อยมีคนรู้จักก็มีเควนตินนี่ล่ะที่พูดถึงภาพยนตร์ของเขาอยู่บ่อยๆ
แสดงให้เห็นถึงการเป็นคนรัก ‘ภาพยนตร์’ แบบสุดหัวใจของผู้ชายที่หลายคนมองว่าเป็น ‘ตัวแสบ’ แห่งวงการฮอลลีวูดได้เป็นอย่างดี แต่ที่น่าเสียดายและทำให้แฟนๆ หลายคนกังวลอยู่ไม่น้อยคือการที่เควนตินเคยประกาศเอาไว้ว่าทั้งชีวิตเขาจะกำกับภาพยนตร์เพียงแค่ 10 เรื่อง
ถ้าเป็นเรื่องจริง เท่ากับว่าเราจะมีโอกาสได้ดูภาพยนตร์สไตล์จัดที่ไม่มีใครเลียนแบบได้อีกแค่ 1 เรื่องเท่านั้น น่าเสียดายจริงๆ
