รถหรู ครอบครัว ตัวละครที่รัก การแข่งขันสุดเดือด ฉากแอ็กชันสุดมัน ภารกิจลับเสี่ยงตาย และความสามารถของตัวละครที่ใกล้เคียงระดับซูเปอร์ฮีโร่เข้าไปทุกที คือจุดเด่นสำคัญของแฟรนไชส์ Fast & Furious ที่ดำเนินต่อเนื่องมาถึง 8 ภาค แต่เพราะโควิด-19 ทำพิษ ทำให้ภาค 9 ต้องเลี้ยวหลบไวรัสเลื่อนฉายออกไปถึงปีหน้า
Fast & Furious ที่นับเป็นภาคที่ 4 ของแฟรนไชส์ เข้าฉายเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2009 โดยได้ จัสติน ลิน จากภาค 3 The Fast and the Furious: Tokyo Drift (2006) กลับมานั่งแท่นผู้กำกับ พร้อมด้วยนักแสดงอย่าง วิน ดีเซล ในบท โดมินิก โทเร็ตโต, พอล วอล์กเกอร์ ในบท ไบรอัน โอคอนเนอร์, มิเชล โรดริเกซ ในบท เลตตี้ ออร์ทิส และจอร์ดานา บรูว์สเตอร์ ในบท มีอา โทเร็ตโต มาแบบครบเซต
เนื้อหาในภาคนี้โฟกัสไปที่ไทม์ไลน์หลักของสองตัวละครสำคัญอย่างโดมินิกและไบรอันที่ต่อเนื่องมาจาก The Fast and the Furious ภาคแรกในปี 2001 ที่เพื่อนรักทั้งสองได้กลับมาเจอกันอีกครั้งในช่วงที่ไบรอันได้รับมอบหมายให้เข้าไปแทรกซึมในแก๊งค้ายาของมาเฟียปริศนาที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของเลตตี้ คนรักของโดมินิกที่กำลังสืบหาความจริงอยู่พอดี ทั้งคู่จึงตัดสินใจร่วมมือกันสืบหาความจริงและยืนยันความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของ ‘เพื่อนรัก’ ในตำนานมากขึ้นไปอีก
Fast & Furious ทำสถิติรายได้เปิดตัวสูงที่สุดของแฟรนไชส์ (ณ เวลานั้น) ที่ 70 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ก่อนจะทำรายได้รวมทั่วโลกไปกว่า 363.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากทุนสร้าง 85 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และนับว่าเป็นอีกหนึ่งภาคที่คนดูยังสัมผัสได้ถึงความเป็น ‘มนุษย์’ ธรรมดาจากตัวละครทั้งหมดได้อยู่บ้าง ก่อนที่ในภาคหลังๆ พวกเขาจะใกล้เคียงกับว่า ‘ซูเปอร์ฮีโร่’ หรือยอดมนุษย์มากขึ้นทุกที
