เมื่อเอ่ยชื่อ เอ็ดดี้ เมอร์ฟี สิ่งที่ตามมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ก็คือมุกตลกขำๆ พร้อมรอยยิ้มกว้างที่ทำให้ผู้ชมต้องหัวเราะตาม สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวของนักแสดงมากความสามารถคนนี้ ชายผู้เติบโตจากสแตนด์อัพคอเมดี้ตั้งแต่วัยเพียง 15 ปี สู่การเป็นตลกแถวหน้าของวงการฮอลลีวูดที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่ง
เอ็ดเวิร์ด เรแกน ‘เอ็ดดี้’ เมอร์ฟี เกิดเมื่อวันที่ 3 เมษายน 1961 ที่บรูกลิน มหานครนิวยอร์ก ในวัยเด็กเขาได้รับอิทธิพลและแรงบันดาลใจมากมายจากการฟังผลงานของนักแสดงตลกชั้นครูหลายคน ไม่ว่าจะเป็น ริชาร์ด ไพรเออร์, บิล คอสบี, เรดด์ ฟ็อกซ์ และโรบิน วิลเลียมส์ ในปี 1976 เขาขึ้นแสดงที่ Roosevelt Youth Center โดยการเลียนแบบนักร้องเพลงโซลอย่าง อัล กรีน ในบทเพลง Let’s Stay Together ซึ่งประสบความสำเร็จและนำพาเอ็ดดี้ไปสู่อาชีพสแตนด์อัพคอเมดี้เต็มตัว ก่อนจะโด่งดังเป็นพลุแตกไปทั่วประเทศจากการเป็นนักแสดงประจำรายการ Saturday Night Live ในช่วงปี 1980-1984 และมีผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกอย่าง 48 Hrs. ในปี 1982
นับจากนั้นเอ็ดดี้ก็ได้มีผลงานการแสดงซึ่งเป็นที่นิยมมหาศาลตามออกมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นหนังชุด Beverly Hills Cop ทั้ง 3 ภาค (1984, 1987, 1994), The Nutty Professor (1996), Dr. Dolittle (1998), Norbit (2007) รวมไปถึงการพากย์เสียง ดองกี้ ใน Shrek, มูชู ใน Mulan และการรับบท เจมส์ ‘ธันเดอร์’ เออร์ลี ใน Dreamgirls ซึ่งทำให้เขาคว้ารางวัลลูกโลกทองคำสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมมาครองได้สำเร็จ
ปัจจุบันเอ็ดดี้เป็นที่ยอมรับในฐานะนักแสดงคอเมดี้ระดับเอลิสต์ของวงการที่ได้รับความนิยมมหาศาล โดยในปี 2015 เขาเป็นนักแสดงที่มีรายได้สูงสุดอันดับ 6 ของอเมริกาจากผลงานภาพยนตร์ตลอดหลายสิบปี นอกจากนี้เอ็ดดี้ยังถูกจัดให้อยู่ในอันดับ 10 ของโผนักแสดงสแตนด์อัพคอเมดี้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลของ Comedy Central และได้รับรางวัล Mark Twain Prize for American Humor โดย John. F. Kennedy Center for the Performing Arts
ภาพ: AFP