Grand Theft Auto: San Andreas คือเกมในเครื่อง PlayStation 2 ที่มียอดขายสูงสุดตลอดกาล และยังคงถูกกล่าวขวัญว่าเป็น GTA ภาคที่ดีที่สุดแม้จะผ่านมาแล้วถึง 14 ปี
ในวัยเด็ก (โดยเฉพาะผู้ชาย) แทบจะพูดได้ว่าใครเคยเล่นเพลย์ 2 ต้องเคยเล่น GTA มาก่อน เพราะทันทีที่ก้าวเท้าเข้าสู่อาณาจักรร้านเกมในช่วงเวลาที่เกมฟุตบอลอย่าง Winning กำลังครองตลอด เราจะเห็นแต่ภาพดิบๆ ของ Grand Theft Auto: San Andreas แทรกตัวอยู่บนหน้าจอโทรทัศน์หลายเครื่องไปพร้อมๆ กัน
ความยิ่งใหญ่ของ GTA: San Andreas คือการจำลองเมืองใหญ่ 3 เมืองในสหรัฐอเมริกา อย่าง ลอสแอนเจลิส, ซานฟรานซิสโก และลาสเวกัส มาเป็นพื้นที่แห่งการผจญภัยที่เต็มไปด้วยกิจกรรมและทางเลือกชีวิตไร้ขีดจำกัด ในโลกที่เราสามารถทำอะไรก็ได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องเล่นตามเนื้อเรื่องหลักที่เกมกำหนดไว้ก็สนุกแล้ว (แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่เลือกทางนี้!)
ผู้เล่นมีตัวเลือกมากมายไม่ต่างจากชีวิตจริงทั้ง ออกกำลังกาย วิ่ง เล่นกล้าม ต่อยมวย เรียนขับรถ จีบสาว เข้าคาสิโน แทงพูล กวนเมือง ไปจนถึงการก่อจลาจล ทุกคนสามารถสวมบทบาท คาร์ล จอห์นสัน หรือที่เรียกกันติดปากว่า CJ และบงการชีวิตของเขาได้โดยสมบูรณ์ตั้งแต่หัวจรดเท้า ทั้งทรงผม เสื้อผ้า กระทั่งการกินอาหารให้อ้วนหรืออดอาหารให้ผอม เป็นอิสระแบบที่ไม่เคยมีเกมไหนมอบให้มาก่อนแม้กระทั่ง GTA ภาคก่อนหน้า และภาคที่พัฒนาตามหลังมาหลายๆ ภาคก็ตาม
GTA: San Andreas นับว่าเป็นเกมที่กินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ดส์ บันทึกสถิติไว้ในปี 2009 ว่าเป็นเกมในเครื่องเพลย์สเตชัน 2 ที่มียอดขายสูงสุดถึง 17.33 ล้านแผ่น และในปี 2011 ค่าย Rockstar Games ผู้ผลิตเกมเองก็ระบุว่าเกมนี้มียอดขายถึง 27.5 ล้านแผ่น และยังเป็นเกมที่ใช้นักพากย์มากที่สุดถึง 861 คน ซึ่งรวมถึงนักแสดงสุดเก๋าอย่าง ซามูเอล แจ็กสัน ก็ยังมาให้เสียง แฟรงค์ เทนเพนนี ตำรวจสุดแสบที่ร้ายยิ่งกว่าเด็กแก๊ง
ถึงแม้ว่านี่จะเป็นเกมที่ตกเป็นจำเลยของสังคมด้วยเนื้อหารุนแรงอยู่บ่อยครั้ง แต่ท้ายที่สุดสิ่งที่ GTA บอกกับเราก็คือในโลกใบนี้ที่มีทางเลือกไร้ขีดจำกัด จะเป็นผู้เล่นหรือถูกเล่น เราเป็นผู้กำหนดเอง