ภาพสาวอังกฤษท่าทางเด๋อด๋าผู้ทุ่มเทตามหารักแท้พร้อมไดอะรีสีแดงคู่ใจ คงทำให้นึกถึงใครไม่ได้นอกจาก บริดเจ็ต โจนส์ จาก Bridget Jones’s Diary ซึ่งเข้าฉายเมื่อวันที่ 13 เมษายน 2001 นับเป็นภาพยนตร์รอมคอมระดับตำนานที่สามารถผสมผสานความตลกโปกฮาระดับกรามค้างให้เข้ากับความโรแมนติกแบบจิกหมอนฟินได้อย่างลงตัว เพียงแค่ฉากเปิดเรื่องที่นางเอกแหกปากร้องเพลง All By Myself อยู่คนเดียวในอพาร์ตเมนต์ก็ทำให้คนดูสาวโสดทั้งขำและทั้งสะเทือนใจไปพร้อมๆ กัน
Bridget Jones’s Diary กำกับโดย ชารอน แม็กไกวร์ บทภาพยนตร์ดัดแปลงมาจากนวนิยายของ เฮเลน ฟีลดิง ในชื่อเดียวกัน ซึ่งเธอได้แรงบันดาลจากการนำวรรณกรรมคลาสสิกอย่าง Pride & Prejudice ของ เจน ออสติน มาตีความใหม่ โดยเฮเลนยังรับหน้าที่เขียนบทภาพยนตร์ร่วมกับ ริชาร์ด เคอร์ติส และแอนดรูว์ เดวีส์ นำแสดงโดย เรเน่ เซลเวเกอร์ ในบท บริดเจ็ต โจนส์, โคลิน เฟิร์ธ ในบท มาร์ค ดาร์ซี และฮิวจ์ แกรนต์ ในบท แดเนียล คลีเวอร์
ภาพยนตร์เล่าเรื่องราวความอลหม่านของ บริดเจ็ต โจนส์ หญิงสาวแสนธรรมดาผู้ต้องต่อสู้กับชีวิตมากปัญหาของเธอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน น้ำหนัก อายุ หรือที่สำคัญที่สุดคือความโสด กระทั่งบริดเจ็ตต้องเข้าไปพัวพันกับแดเนียล เจ้านายสุดหล่อจอมกะล่อนผู้จ้องจะจีบเธอ และมาร์ค ทนายหนุ่มเนี้ยบท่าทีเย็นชา แต่แฝงไปด้วยความอบอุ่นซึ่งรู้จักกับเธอมาตั้งแต่เด็ก งานนี้บริดเจ็ตจึงตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก เมื่อเธอต้องตัดสินใจเลือกใครคนหนึ่งให้เป็นรักแท้ของเธอ
ตัวหนังทำรายได้บนบ็อกซ์ออฟฟิศไปกว่า 281 ล้านเหรียญสหรัฐ จากทุนสร้างเพียง 25 ล้านเหรียญสหรัฐ พร้อมทั้งได้รับคำชมมหาศาล โดยเฉพาะด้านการแสดงของเรเน่ซึ่งโดดเด่นเป็นที่เข้าตานักวิจารณ์จนทำให้เธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม และด้วยความสำเร็จมากมายนี้ทำให้ Bridget Jones’s Diary คลอดภาคต่อออกมาอีกถึง 2 ภาค ได้แก่ Bridget Jones: The Edge of Reason (2004) และ Bridget Jones’s Baby (2016)
ภาพ: @Bridget Jones’s Diary / Facebook