รัฐบาลสหรัฐฯ นำโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ปรับเปลี่ยนจุดยืนครั้งสำคัญต่อประเด็นการสร้างที่พักอาศัยของชาวยิวในเขตเวสต์แบงก์ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นของชาวปาเลสไตน์ ไม่ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ
เมื่อวานที่ผ่านมา (18 พฤศจิกายน) ไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่าหลังจากที่มีการถกเถียงข้อกฎหมายเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว รัฐบาลสหรัฐฯ ชุดนี้เห็นด้วยกับรัฐบาลของประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน ที่เคยแสดงจุดยืนว่าการสร้างย่านที่พักอาศัยดังกล่าวในเขตเวสต์แบงก์นั้นไม่ผิดกฎหมายในรายการประเมิน เมื่อปี 1981
ทางด้านนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ระบุว่าวันนี้สหรัฐฯ ได้ดำเนินนโยบายที่สำคัญ หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐฯ ออกมาระบุอย่างแน่ชัดว่าการอ้างสิทธิ์ในการสร้างที่พักอาศัยเหนือพื้นที่เขตเวสต์แบงก์ รวมถึงแถบจูเดียและซามาเรีย ไม่ขัดต่อหลักกฎหมายระหว่างประเทศในเชิงพฤติการณ์อีกต่อไป
โดยประเด็นดังกล่าวถือเป็นหนึ่งในปมขัดแย้งสำคัญระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ หลังจากที่อิสราเอลยึดพื้นที่ในเขตเวสต์แบงก์และนครเยรูซาเลมฝั่งตะวันออกในช่วงสงคราม 6 วัน และสร้างที่พักอาศัยในบริเวณนั้น
คำประกาศของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ในครั้งนี้นับเป็นการปฏิเสธคำแถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เมื่อ 41 ปีก่อน ที่เคยระบุว่าการสร้างย่านที่พักอาศัยของชาวยิวในเขตเวสต์แบงก์ผิดกฎหมายระหว่างประเทศ อีกทั้งยังเป็นเหตุกระตุ้นให้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ รวมถึงชาติพันธมิตรในยุโรปและชาติตะวันออกกลางที่ยังคงมองว่าการกระทำดังกล่าวเป็นสิ่งที่ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศมีท่าทีที่ตึงเครียดขึ้น ในขณะเดียวกันก็แสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ-อิสราเอลที่กระชับแน่นขึ้นเป็นอย่างมาก
ภาพ: Drew Angerer / Getty Images
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: