จากรายงานที่เผยแพร่บนเว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งเป็นรายละเอียดบัญชีการบริจาคเงินให้พรรคการเมืองในเดือนเมษายน 2565 ก่อนการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) พบว่า พรรคเศรษฐกิจไทยที่ขณะนั้น ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นเลขาธิการพรรค ได้รับบริจาคจากผู้บริจาค 10 ราย รายละ 1 ล้านบาท รวมเดือนเดียวยอดบริจาค 10 ล้านบาท
ด้านพรรคประชาธิปัตย์ได้รับการอัดฉีดไม่แพ้กัน โดย โชติ โสภณพนิช ประธานมูลนิธินโยบายสาธารณะไทย สามีคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ควัก 10 ล้านบาท บริจาคเต็มโควตาต่อปีให้พรรค สรุปรวม 56 ราย พรรคประชาธิปปัตย์ได้รับบริจาคถึง 24 ล้านบาท
นอกจากนี้ที่น่าสนใจคือพรรคพลังประชารัฐ ที่แม้ไม่ได้ส่งผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. แต่ก็ส่งผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) แม้จะได้มาเพียง 2 เขต แต่ยอดบริจาคเดือนเมษายนได้รับสูงถึง 25 ล้านบาท จากผู้บริจาคเพียง 6 ราย พบคนนามสกุล ‘ประภาจรัสวงศ์’ นามสกุลเดียวกับ สิทธิกร ประภาจรัสวงศ์ ที่ทำธุรกิจแสดงโชว์เพื่อความบันเทิงและนันทนาการ จังหวัดภูเก็ต ธุรกิจนำเที่ยว และธุรกิจร้านอาหาร ซึ่งเคยบริจาคให้พรรคพลังประชารัฐในเดือนพฤษภาคม 2564 ถึง 3 ล้านบาท ครั้งนี้ตระกูล ‘ประภาจรัสวงศ์’ 2 คน บริจาคให้พรรคพลังประชารัฐรวม 9 ล้านบาท
ขณะที่พรรคเพื่อไทย พรรคที่ครองที่นั่ง ส.ก. มากที่สุดในการเลือกตั้ง กทม. รอบนี้ ก็ได้ยอดบริจาคถึง 20 ล้านบาท โดยมี พิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานสมัยรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทุ่มบริจาค 4 ล้าน ส่วน เฮียเพ้ง หรือ พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล อัดฉีดบริจาคให้ 5 ล้านบาท
สำหรับก้าวไกลที่ส่งผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. คือ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร พบหุ้นส่วนบริษัทบริการติดตั้งเครื่องชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า EV Car บริจาคให้ 1.4 ล้านบาท ยอดบริจาครวมเดือนเมษายน ก้าวไกลพุ่งถึง 6.7 ล้านบาท
ปิดท้ายที่พรรคภูมิใจไทย ทุนใหญ่เดือนนี้คือ ชำนาญ พรพิไลลักษณ์ แห่งบริษัท พรพรหมเม็ททอล จำกัด (มหาชน) หรือ PPM ที่รุกตลาดโซลาร์เซลล์ ทุ่ม 10 ล้านบาท เต็มโควตาให้ภูมิใจไทยเช่นกัน หลังจากที่เคยบริจาค 1 ล้านบาท มาแล้วในปี 2563 และปี 2564
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง https://www.ect.go.th/ect_th/download/article/article_20220621144754.pdf
