วันนี้ (6 ธันวาคม) ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย (มท.) กล่าวว่า อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มอบนโยบายในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ดำเนินการสำหรับการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ปี 2566-2567
บังคับใช้กฎหมายคุมแหล่งกำเนิดมลพิษ
ไตรศุลีกล่าวว่า ตามข้อสั่งการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้ให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จังหวัดเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ที่ส่งผลต่อการเกิดปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่ โดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีในการสนับสนุนการสั่งดำเนินการ ตลอดจนแจ้งเตือนแก่ประชาชนได้อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ โดยให้ฝ่ายปฏิบัติการให้ความสำคัญกับการป้องกันและลดการเกิดมลพิษที่แหล่งกำเนิด พร้อมกำชับหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ให้บังคับใช้กฎหมายโดยเคร่งครัด รวมถึงบูรณาการการทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และยกระดับการปฏิบัติตามมาตรการ อีกทั้งได้เน้นย้ำให้มีการสื่อสารเชิงรุกผ่านช่องทางต่างๆ เพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงสาเหตุการเกิดฝุ่นละอองที่ประชาชนจะมีส่วนร่วมในการลดปัญหาได้ เข้าใจต่อสถานการณ์ มาตรการข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนบทลงโทษหากมีการฝ่าฝืน
ย้ำให้ความสำคัญและความปลอดภัย
“มท.1 มีความห่วงใยผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยงอันตราย จึงเน้นย้ำให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ อาสาสมัครที่เข้ามามีส่วนร่วมกับภาครัฐ จัดอุปกรณ์ส่วนบุคคลที่มีความเหมาะสม กรณีการเกิดไฟป่าที่กำลังภาคพื้นที่เข้าถึงยากให้ประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานที่มีอากาศยานเข้าสนับสนุน และให้ดูแลด้านสวัสดิการและค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ให้เป็นไปตามระเบียบด้วย” ไตรศุลีกล่าว
พบ 8 พื้นที่ กทม. เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
ขณะเดียวกันศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานครสรุปผลการตรวจวัด PM2.5 วันที่ 6 ธันวาคม ระหว่างเวลา 05.00-07.00 น. พบว่า
- ตรวจวัดได้ 18.8-41.2 มคก./ลบ.ม.
- ค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร 29.5 มคก./ลบ.ม.
- ค่า PM2.5 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ จำนวน 8 พื้นที่
โดยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเมื่อวาน (5 ธันวาคม) ในช่วงเวลาเดียวกัน และพบว่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ จำนวน 8 พื้นที่ ได้แก่
- เขตหนองแขม สามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81: มีค่าเท่ากับ 41.2 มคก./ลบ.ม.
- เขตหนองจอก บริเวณหน้าสำนักงานเขตหนองจอก: มีค่าเท่ากับ 40.1 มคก./ลบ.ม.
- เขตบางกอกน้อย บริเวณหน้าสถานีตำรวจรถไฟบางกอกน้อย: มีค่าเท่ากับ 39.7 มคก./ลบ.ม.
- เขตบึงกุ่ม ภายในสำนักงานเขตบึงกุ่ม: มีค่าเท่ากับ 39.1 มคก./ลบ.ม.
- เขตปทุมวัน หน้าห้างสามย่านมิตรทาวน์: มีค่าเท่ากับ 38.9 มคก./ลบ.ม.
- เขตคลองสามวา ภายในสำนักงานเขตคลองสามวา: มีค่าเท่ากับ 37.7 มคก./ลบ.ม.
- เขตลาดกระบัง ด้านหน้าโรงพยาบาลลาดกระบังกรุงเทพมหานคร ข้างป้อมตำรวจ: มีค่าเท่ากับ 37.7 มคก./ลบ.ม.
- เขตวังทองหลาง ด้านหน้าปั๊มน้ำมันเอสโซ่ ซ.ลาดพร้าว 95: มีค่าเท่ากับ 37.6 มคก./ลบ.ม.
6-13 ธันวาคมนี้ การระบายอากาศไม่ดีถึงอ่อน
สำหรับในช่วงวันที่ 6-13 ธันวาคม การระบายอากาศไม่ดีถึงอ่อน อย่างไรก็ตาม ยังมีโอกาสเกิดฝนตกช่วง 6-8 ธันวาคม จึงคาดว่าจะทำให้ความเข้มข้นของฝุ่นละอองทรงตัวถึงลดลงในระยะนี้ หลังจากนั้นคาดว่าฝุ่นละอองเกิดการสะสมตัวในช่วงวันที่ 9-13 ธันวาคม และคาดการณ์วันนี้มีเมฆบางส่วน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ของพื้นที่
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลจุดความร้อน (Hotspot) ผ่านดาวเทียม จากหน่วยงาน NASA ไม่พบจุดความร้อนที่ดาวเทียมตรวจพบค่าความร้อนสูงผิดปกติจากค่าความร้อนบนผิวโลกบริเวณพื้นที่กรุงเทพมหานคร