เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่า เพย์ตัน เกนดรอน ชายหนุ่มวัย 18 ปีซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีกราดยิงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งในเมืองบัฟฟาโล รัฐนิวยอร์ก วางแผนมาอย่างรอบคอบก่อนที่จะลงมือ โดยเขาขับรถมาไกลจากที่พักถึง 320 กิโลเมตรเพื่อเปิดฉากกราดยิงในพื้นที่ที่มีประชากรผิวสีอยู่กันอย่างหนาแน่นโดยเฉพาะ
เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งสืบสวนคดีนี้ โดยระบุว่าแรงจูงใจในการก่อเหตุรุนแรงมาจากประเด็นการเหยียดชาติพันธุ์ โดย ไบรอน บราวน์ นายกเทศมนตรีเมืองบัฟฟาโล กล่าวว่า “ผู้ต้องสงสัยเดินทางมาด้วยความตั้งใจที่จะปลิดชีพคนผิวสีให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”
เกนดรอนสวมเสื้อเกราะขับรถเข้าไปในลานจอดรถของซูเปอร์มาร์เก็ต Tops Friendly Market ในเมืองบัฟฟาโลเมื่อเวลาราว 14.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น และเปิดกล้องไลฟ์สดขณะก่อเหตุ โดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้ยิงสกัดเขาไปหลายนัดแต่ก็ไม่เป็นผล เกนดรอนสามารถสังหารเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้ ก่อนที่จะเข้าไปกราดยิงประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่กำลังมาเดินช้อปปิ้ง
ตำรวจเปิดเผยว่า เกนดรอนทำการลาดตระเวนพื้นที่ดังกล่าว 1 วันก่อนที่จะก่อเหตุด้วย
ทั้งนี้ มีหลักฐานบ่งชี้ว่า เกนดรอนเป็นผู้ยึดถือลัทธิฟาสซิสต์ และเชื่อว่าคนผิวขาวเป็นเผ่าพันธุ์ที่สูงส่งกว่ามนุษย์คนอื่นๆ (White Supremacy) โดยเขาได้เผยแพร่ความเชื่อสุดโต่งเหล่านี้ผ่านช่องทางออนไลน์ ทั้งการเหยียดชาติพันธุ์ การต่อต้านชาวยิว การเทิดทูนลัทธิฟาสซิสต์ รวมถึงทฤษฎีสมคบคิดและสถิติต่างๆ ที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี
เกนดรอนถูกจับกุมทันทีหลังก่อเหตุ แต่เขาไม่ยอมรับสารภาพในข้อหาเจตนาฆ่าผู้อื่น
อย่างไรก็ตาม ประชาชนตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมเจ้าหน้าที่รัฐถึงปล่อยให้เกิดเหตุสะเทือนขวัญเช่นนี้ได้ ในเมื่อรัฐมีข้อมูลอยู่แล้วว่าเขาเป็นพวกหัวรุนแรงที่เคยขู่จะก่อเหตุกราดยิงโรงเรียนมัธยมศึกษาของตัวเองเมื่อเดือนมิถุนายน 2564 ก่อนที่จะเข้ารับการตรวจสุขภาพจิตในภายหลัง
เหตุสะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในเมืองบัฟฟาโลตกตะลึงอย่างมาก โดยผู้ที่มาร่วมเฝ้าระวังความปลอดภัยเมื่อวานนี้เปิดเผยกับสำนักข่าว Reuters ว่า “มันน่าเจ็บปวดใจมาก ผมไม่เข้าใจว่าทำไมถึงมีคนคิดทำอะไรแบบนี้”
เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า เหยื่อที่ถูกกราดยิงมีทั้งหมด 13 ราย ซึ่งในจำนวนดังกล่าวมี 11 รายที่เป็นคนผิวสี โดยมีเหยื่อรายหนึ่งเป็นคุณพ่อที่กำลังซื้อคัพเค้กไปเซอร์ไพรส์วันเกิดลูกชาย ส่วนหญิงอีกรายหนึ่งก็กำลังเลือกซื้อสินค้าหลังจากที่เดินทางไปเยี่ยมสามี ณ สถานดูแลพักฟื้น
ในขณะที่แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่พยายามที่จะลบฟุตเทจของเหตุกราดยิงดังกล่าวไม่ให้หลงเหลือบนโลกอินเทอร์เน็ต ชาวอเมริกันก็ถกเถียงกันถึงประเด็นการออกกฎหมายควบคุมอาวุธปืนอีกครั้ง รวมถึงปัญหาเครือข่ายเยาวชนหัวรุนแรงที่มีอยู่ทั่วโลกซึ่งยังแก้ไม่ตก โดยหลายคนได้รับการชักจูงอย่างผิดๆ ให้ก่อเหตุสังหารผู้บริสุทธิ์
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ กล่าวว่า ขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการสืบสวนข้อเท็จจริง แต่เขาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการเหยียดชาติพันธุ์อย่างสุดโต่ง
“เราทุกคนต้องร่วมมือกันเพื่อขจัดความเกลียดชังที่ยังคงเป็นรอยเปื้อนในจิตวิญญาณของอเมริกา” ผู้นำสหรัฐฯ กล่าว
นอกจากนี้ ทำเนียบขาวยังได้ออกแถลงการณ์ว่า ประธานาธิบดีไบเดนและภริยาจะเดินทางไปยังเมืองบัฟฟาโลเพื่อเยี่ยมเยือนประชาชนในพื้นที่
การก่อเหตุของเกนดรอนถือเป็นเหตุกราดยิงที่ร้ายแรงที่สุดในสหรัฐฯ ของปีนี้ โดยสถิติระบุว่า มีผู้เสียชีวิตจากอาวุธปืนมากถึง 40,000 รายต่อปีในสหรัฐฯ ซึ่งนับรวมถึงการฆ่าตัวตาย และการเสียชีวิตจากเหตุกราดยิงที่เริ่มมีให้เห็นถี่ขึ้นเรื่อยๆ
ภาพ: Scott Olson / Getty Images
อ้างอิง: