วันนี้ (26 มกราคม) เจ้าหน้าตำรวจสถานีตำรวจนครบาล (สน.) ดุสิต กรุงเทพมหานคร นัด 37 ผู้ต้องหาซึ่งเป็นชาวบ้านจากกลุ่มจะนะรักษ์ถิ่น อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา เพื่อรายงานตัวติดตามความคืบหน้าคดีที่ทั้ง 37 คนถูกควบคุมตัวระหว่างที่ชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาล และถูกดำเนินคดีใน 6 ข้อหาที่เกี่ยวข้องกับการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน, พ.ร.บ.ควบคุมโรค, ข้อหาเกี่ยวกับกฎหมายจราจร รวมถึงข้อหาเกี่ยวกับการฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงาน
โดยทั้ง 37 คนเดินทางมาจากอำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ตั้งแต่เมื่อช่วงวานนี้ (25 มกราคม) และมาถึงกรุงเทพมหานครเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา สมบูรณ์ คำแหง หนึ่งในผู้ต้องหาระบุว่า เมื่อเดินทางมาถึงประจวบคีรีขันธ์กลับมีการโทรเจรจาเพื่อขอให้มาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจในช่วงค่ำคืน เพื่อไม่ให้มีกลุ่มอื่นๆ มาสมทบ รวมถึงพยายามให้เลื่อนนัดออกไปก่อน ซึ่งสมบูรณ์ยืนยันว่าทางชาวบ้านที่ตกเป็นผู้ต้องหาทุกคนประสงค์จะมาตามนัดหมายเดิมที่ทางตำรวจนัด เนื่องจากเดินทางมาไกลเป็นพันกิโล รวมถึงมีต้นทุนทั้งต้องหยุดงาน ขาดรายได้ เพื่อมารายงานตัวแต่ละครั้ง
สำหรับบรรยากาศหน้า สน.ดุสิต วันนี้ มีกลุ่มขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือ พีมูฟ มาร่วมให้กำลังใจรวมถึงออกแถลงการณ์ร่วม และมีกลุ่มนักศึกษาจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มาศึกษาในกรุงเทพมหานครมาร่วมร้องเพลงและมอบดอกไม้ให้กำลังใจด้วยเช่นเดียวกัน
ที่สุดแล้วทนายความของกลุ่มแจ้งว่า วันนี้ทางตำรวจได้แจ้งว่าจะมีการสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 37 คน ขั้นตอนต่อไปคือการนำตัวผู้ต้องหาเพื่อส่งอัยการดำเนินการต่อ โดยทันทีที่ทราบว่าจะมีการสั่งฟ้อง ทางกลุ่มจะนะรักษ์ถิ่นจะเดินหน้าติดต่อกองทุนยุติธรรมเพื่อให้ทางกองทุนสนับสนุนค่าใ้ช้จ่ายในการสู้คดีความ ทั้งเรื่องค่าประกันตัวและค่าเดินทางมาศาล