วันนี้ (28 พฤศจิกายน) พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ประสบเหตุได้อย่างทันท่วงที พร้อมดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน อำนวยความสะดวกการจราจรในพื้นที่ประสบอุทกภัย รวมทั้งดูแลข้าราชการตำรวจและสถานที่ราชการของตำรวจที่ได้รับผลกระทบด้วย
ล่าสุดยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย 6 จังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ ได้แก่
- จังหวัดสุราษฎร์ธานี 2 อำเภอ คือ กาญจนดิษฐ์ และดอนสัก ระดับน้ำลดลง
- จังหวัดนครศรีธรรมราช 5 อำเภอ คือ ชะอวด, เฉลิมพระเกียรติ, พระพรหม, เมืองนครศรีธรรมราช และร่อนพิบูลย์ ระดับน้ำลดลง
- จังหวัดสงขลา 1 อำเภอ คือ ระโนด ระดับน้ำทรงตัว
- จังหวัดปัตตานี 2 อำเภอ คือ มายอ และทุ่งยางแดง ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
- จังหวัดยะลา 1 อำเภอ คือ บันนังสตา ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
- จังหวัดนราธิวาส 5 อำเภอ คือ บาเจาะ, แว้ง, รือเสาะ, เจาะไอร้อง และสุคิริน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้ง 13 จังหวัดในพื้นที่ภาคใต้เฝ้าระวังสถานการณ์ท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง ดินถล่ม น้ำล้นอ่างเก็บน้ำ น้ำล้นตลิ่ง และคลื่นลมแรง ในช่วงวันที่ 27 พฤศจิกายน – 4 ธันวาคม 2567
พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ กล่าวว่า สั่งการให้ตำรวจภูธรภาค 8 และ 9 ดูแลช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัยอย่างเต็มที่ในทุกด้านจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ โดยให้บูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดสถานการณ์ และจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ตรวจสภาพน้ำท่วมในพื้นที่รับผิดชอบ ประชาสัมพันธ์หลีกเลี่ยงเส้นทางที่ประสบปัญหา
พร้อมทั้งออกลาดตระเวนดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ป้องกันมิจฉาชีพก่อเหตุซ้ำเติม หากพบให้ดำเนินคดีทุกราย และให้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (กองบังคับการตำรวจทางหลวง, กองบังคับการตำรวจน้ำ), กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน, กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และสำนักงานส่งกำลังบำรุง สนับสนุนทั้งกำลังพล เครื่องมือ ยานพาหนะ และกองบินตำรวจ ให้เตรียมความพร้อมอพยพช่วยเหลือประชาชน ตำรวจ รวมทั้งสนับสนุนและช่วยเหลือทางการแพทย์
นอกจากนี้ ให้นำแนวทางการปฏิบัติกรณีเกิดอุทกภัยและภัยพิบัติในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ผ่านมามาปรับใช้ ซึ่งสั่งการให้ถอดบทเรียนเพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติในพื้นที่ต่างๆ ต่อไปไว้แล้ว และเน้นย้ำให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นดูแลข้าราชการตำรวจที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยด้วย โดยเน้นเรื่องความเป็นอยู่และสวัสดิการอย่างเต็มที่
ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ที่สายด่วน 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง