วันนี้ (30 เมษายน) พล.ต.ต. ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) กล่าวถึงการดำเนินการหลังจากที่กลุ่มผู้ชุมนุมรวมตัวกันชุมนุมประท้วงภายในบริเวณศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก และมีพฤติการณ์จะบุกเข้าไปภายในอาคารศาล เมื่อวานนี้ (29 เมษายน) จากนั้นยังไปรวมตัวกันชุมนุมประท้วงที่บริเวณด้านหน้าของศาลอาญาและบนถนนรัชดาภิเษก
เบื้องต้นทราบว่าขณะนี้ทางศาลอาญาอยู่ระหว่างการพิจารณาพฤติการณ์ของผู้ชุมนุมและแกนนำเมื่อวานนี้ว่า มีลักษณะเข้าข่ายความผิดเรื่องการละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ มีกลุ่มบุคคลใดบ้าง จากนั้นจะมีการประสานแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยพิสูจน์ระบุตัวบุคคล ก่อนดำเนินการออกหมายเรียกตัวมาดำเนินคดีตามขั้นตอน แต่จะมีบุคคลใด หรือจำนวนเท่าใดบ้างยังไม่สามารถระบุได้ในขณะนี้
ส่วนการดำเนินคดีในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากการตรวจสอบพฤติการณ์ของแกนนำและผู้ชุมนุมในเบื้องต้นพบว่า อาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.ก. ฉุกเฉิน, พ.ร.บ. ควบคุมโรคติดต่อ และประกาศของกรุงเทพมหานคร เรื่องการห้ามชุมนุมรวมตัวจัดกิจกรรมตั้งแต่ 50 คนขึ้นไป หรือเป็นการเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 และความผิดเรื่องการไม่สวมหน้ากากอนามัยนอกเคหสถาน ทั้งนี้ชุดสืบสวนสอบสวนของสถานีตำรวจนครบาล (สน.) พหลโยธิน อยู่ระหว่างการตรวจสอบตัวบุคคลว่ามีบุคคลใดที่กระทำความผิดบ้าง รวมถึงต้องตรวจสอบพยานหลักฐานทั้งภาพจากกล้องวงจรปิดภายในและนอกศาล, บริเวณถนนรัชดาภิเษก, รวมถึงจากการบันทึกภาพและเสียงของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนที่จะดำเนินการออกหมายเรียกหรือหมายจับตามขั้นตอน ทั้งนี้หากพบว่าการปราศรัยมีการพาดพิงไปถึงสถาบันหรือบุคคลใด ก็ต้องมีการดำเนินคดีเพิ่มเติมอีกในภายหลัง
ส่วนการชุมนุมในช่วงเย็นวันนี้ ซึ่งมีข้อมูลว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะไปรวมตัวกันที่หน้าสถานทูตสหรัฐอเมริกา สถานทูตเยอรมนี และที่หน้าศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะมีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจ ตำรวจสันติบาล และตำรวจนอกเครื่องแบบ บันทึกภาพเหตุการณ์และเสียง เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีหลังจากนี้ โดยในเบื้องต้นทั้งสองสถานทูตยังไม่ได้มีการร้องขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มเติม และการข่าวจากฝ่ายความมั่นคงพบว่าการชุมนุมในช่วงเย็นวันนี้ไม่น่าเป็นห่วง แต่ก็ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ไปดูแลในจุดต่างๆ ตามสถานการณ์
ทั้งนี้ยังเตือนไปถึงกลุ่มผู้ชุมนุมว่า ขณะนี้กรุงเทพมหานครยังอยู่ภายใต้ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน, พ.ร.บ. ควบคุมโรคติดต่อ, พ.ร.บ. ทางบก และประกาศของกรุงเทพมหานคร รวมถึงยังมียอดของผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นจำนวนมาก จึงขอให้งดการชุมนุมดังกล่าวออกไปก่อน และหากฝ่าฝืนมีการชุมนุมกันก็จำเป็นต้องดำเนินคดีตามกฎหมายที่มีอยู่ และหากมีการติดเชื้อโควิด-19 จากในการชุมนุม ก็จำเป็นต้องดำเนินการทางคดีและความเสียหายในภายหลัง
