วันนี้ (2 พฤศจิกายน) พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีตรวจสอบเส้นทางการเงินในบัญชีของ สามารถ เจนชัยจิตรวนิช ว่าได้ตรวจสอบพบเส้นเงินประมาณ 4-5 แสนบาท ที่เข้าข่ายการกรรโชกทรัพย์
ตำรวจจึงเรียกผู้เสียหายมาสอบปากคำ ซึ่งขณะนี้ผู้เสียหายได้แจ้งความฐานกรรโชกทรัพย์ไว้แล้ว ทำให้ตอนนี้สามารถต้องถูกดำเนินคดีเพิ่มเติมอีก 1 คดี โดยเรื่องนี้ตนเองให้กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม เป็นผู้รับผิดชอบ
พล.ต.ต. จรูญเกียรติ กล่าวว่า ผู้เสียหายรายนี้เป็นผู้ประกอบการเปิดบริษัทเกี่ยวกับการลงทุน ซึ่งมีเอกสารยืนยันการทำธุรกิจอย่างถูกต้องมาตลอด แต่ปรากฏว่าสามารถติดต่อไปข่มขู่ว่าบริษัทมีจุดหมิ่นเหม่ที่จะผิดกฎหมาย บริษัทพยายามจะชี้แจงแต่สามารถก็ไม่รับฟังและเรียกรับเงิน
โดยครั้งแรกเรียกเดือนละ 5 หมื่นบาท ผู้เสียหายจึงต่อเหลือเดือนละ 2 หมื่นบาท ซึ่งมีการจ่ายมาหลายเดือน รวมเป็นเงินประมาณ 4-5 แสนบาท
เมื่อถามว่าตำรวจจะเข้าไปแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับสามารถในเรือนจำได้เร็วๆ นี้หรือไม่ พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ระบุว่า ตอนนี้พนักงานสอบสวนกำลังสอบสวนอยู่ แต่มีหลักฐานเส้นทางการเงินชัดเจนแล้วว่ามีการบังคับขู่เข็ญ ทำให้ผู้เสียหายต้องยอมจ่ายเงินจำนวนนี้
นอกจากเส้นทางการเงินนี้แล้ว ยังพบเงินอีกประมาณ 2 ล้านบาทที่เชื่อมโยงไปยังบุคคลใกล้ชิดของสามารถ โดยเป็นเงินที่ผู้ต้องหาคดีดิไอคอนกรุ๊ปโอนมาให้ ซึ่งเรื่องนี้ได้เรียกบุคคลใกล้ชิดคนดังกล่าวมาสอบปากคำแล้ว พบว่าให้การเป็นประโยชน์ แต่คดีหลักตอนนี้อยู่ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ซึ่งคาดว่า DSI จะต้องไปสอบสวนเพิ่มเติมเพราะยังไม่มีข้อมูลเรื่องเส้นเงินนี้
พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ยังกล่าวถึงกรณีที่สามารถประท้วงอดอาหารจนมีอาการป่วยว่าอย่าทำแบบนี้เลย ถ้ามีความผิด ศาลก็จะต้องพิจารณาตามพยานหลักฐาน ไม่ใช่ว่าจะผูกคอตายหรืออดอาหารตายแล้วศาลจะให้ประกันตัว ไม่อย่างนั้นก็ได้ประกันตัวกันหมดแล้ว กระบวนการยุติธรรมมีหลักเกณฑ์พิจารณาเป็นกรณีไป ดังนั้นอย่าทำเพื่อจะได้รับการประกันตัว ให้ไปสู้กันในชั้นศาล