วันนี้ (27 มีนาคม) เจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) นำกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 2 จุด ในจังหวัดสมุทรปราการ ได้แก่ บริษัทบัญชีแห่งหนึ่งในตำบลบางพลีใหญ่ และบ้านพักภายในหมู่บ้านหรู ย่านสนามบินสุวรรณภูมิ หลังพบว่ามีการรับจดทะเบียนบริษัทนอมินีให้แก่นายทุนชาวจีน
ผลจากการตรวจค้น เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 72 ราย แบ่งเป็นชาวไทย 51 ราย และชาวจีน 21 ราย พร้อมดำเนินคดีกับนิติบุคคลจำนวน 15 บริษัท ฐานความผิดตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 นอกจากนี้ ยังตรวจยึดของกลางหลายรายการ รวมถึงโฉนดที่ดิน 5 ฉบับ ตราประทับบริษัท 332 อัน เอกสารลูกค้า 2 กล่อง เอกสารเกี่ยวกับบริษัทนอมินี 1 แฟ้ม เอกสารขอวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน 16 รายการ รวมมูลค่าทรัพย์สินกว่า 150 ล้านบาท
การจับกุมครั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องจากปฏิบัติการ ‘CIB Game On’ ซึ่งมุ่งรื้อเครือข่ายอาชญากรรมชาวจีนในไทย โดยก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ได้จับกุม ลี ชาวจีน ผู้ต้องหาตามหมายแดงของตำรวจสากล (Red Notice) ฐานยักยอกทรัพย์จากนักลงทุนชาวจีน มูลค่าความเสียหายกว่า 14,000 ล้านบาท ลีได้ใช้ไทยเป็นที่ซ่อนตัว และเปิดบริษัทนอมินีเพื่อฟอกเงิน ก่อนร่วมกับพวกตั้งขบวนการออกบัตรประชาชนและวีซ่าเถื่อนให้กับชาวจีนรายอื่น
หลังการจับกุมลี เจ้าหน้าที่ยังคงสืบสวนขยายผล กระทั่งพบว่าบริษัทบัญชีในอำเภอบางพลีที่รับจดทะเบียนบริษัทให้กลุ่มนายทุนจีน มีพฤติการณ์ช่วยเหลือในการจัดทำเอกสารทางบัญชีและการเงินเพื่ออำพรางการดำเนินธุรกิจผิดกฎหมาย โดยมี เหยียนเจ้า หรือ วีนัส ชาวจีน เป็นนายทุนเจ้าของบริษัทหลัก และบริหารงานจากประเทศจีนผ่านแอปพลิเคชัน WeChat
เครือข่ายนี้ใช้วิธีนำชื่อพนักงานคนไทยและบุคคลใกล้ชิดมาเป็นตัวแทนถือหุ้นแทนชาวจีน เพื่อเลี่ยงข้อกฎหมาย และใช้บริษัทเหล่านี้ในการดำเนินธุรกิจที่สงวนไว้สำหรับคนไทย รวมถึงถือกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ในไทยอย่างผิดกฎหมาย สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจและระบบการเงินของประเทศ
จากการตรวจสอบเพิ่มเติม พบว่าบริษัทนอมินีที่เกี่ยวข้องอีก 15 บริษัท มีที่ตั้งอยู่ภายในตลาดย่านบางเสาธง แต่แท้จริงแล้วเป็นคูหาร้าง ไม่มีการดำเนินกิจการจริง เจ้าหน้าที่จึงเชื่อว่าเป็นบริษัทบังหน้าที่จัดตั้งขึ้นเพื่อเลี่ยงกฎหมาย ทั้งนี้ ทาง ปอศ. จะเดินหน้าขยายผลต่อไป เพื่อกวาดล้างเครือข่ายดังกล่าวให้สิ้นซาก