×

ตร.-กสทช. เดินหน้าปฏิบัติการ ‘ระเบิดสะพานโจร’ ตัดเส้นทางแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ระงับเสาสัญญาณใกล้แนวชายแดนไทย-กัมพูชา 3 จุด

โดย THE STANDARD TEAM
28.12.2024
  • LOADING...

วันนี้ (28 ธันวาคม) พล.ต.อ. ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประชุมสรุปสถานการณ์อาชญากรรมคดีออนไลน์ในพื้นที่อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว จากนั้นลงพื้นที่บริเวณชายแดน เพื่อสำรวจตึก 25 ชั้นฝั่งประเทศเพื่อนบ้านที่มองเห็นจากฝั่งไทย และลงพื้นที่ข้างเคียง เพื่อตรวจสอบเสาและสายส่งสัญญาณ

 

พล.ต.อ. ธัชชัย เปิดเผยว่า จากการที่มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตั้งอยู่ที่เมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา ติดกับชายแดนของประเทศไทยในเขตอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ซึ่งเป็นกลุ่มอาชญากรรมที่มีคนต่างชาติเป็นผู้อยู่เบื้องหลังมาหลอกลวง ฉ้อโกง เอาทรัพย์สินจำนวนมากของคนไทยออกไปนอกประเทศ สร้างความเสียหายให้กับประเทศไทยอย่างร้ายแรง ถือเป็นภัยคุกคามของคนต่างชาติต่อความมั่นคงของประเทศในรูปแบบใหม่

 

จากการตรวจสอบจากการแจ้งความของประชาชนผ่านศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ www.thaipoliceonline.go.th พบว่าสัญญาณที่ใช้ในการส่งข้อความและการโทรเข้ามาหลอกลวงประชาชนเป็นจำนวนมากมาจากเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา

 

สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงได้ร่วมกับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) โดย พล.ต.อ. ดร.ณัฐธร เพราะสุนทร กสทช. (ด้านกฎหมาย) และประธานอนุกรรมการบูรณาการบังคับใช้กฎหมายความผิดทางเทคโนโลยีฯ, เจ้าหน้าที่กองกำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว, ตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว, ตำรวจตระเวนชายแดน และตำรวจท่องเที่ยว นำมาตรการ ‘ระเบิดสะพานโจร’ มาใช้ โดยมุ่งตัดเส้นทางเสบียงของคนร้าย เพื่อไม่ให้สามารถนำมาใช้ในการกระทำความผิดได้ ประกอบด้วย

 

  1. ค้นหาสัญญาณโทรศัพท์ และตัดสัญญาณสื่อสารทางโทรศัพท์และดาต้าอินเทอร์เน็ต ที่มีการลักลอบส่งให้กับกลุ่มคนร้ายใช้อย่างผิดกฎหมาย ดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด

 

  1. ควบคุมและตรวจสอบคนข้ามแดนอย่างเข้มงวดและใกล้ชิด สำหรับชาวต่างชาติและคนไทยที่ไปร่วมขบวนการกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทั้งไปเปิดบัญชีมาและสแกนหน้าให้กับคนร้าย รวมทั้งไปทำหน้าที่หลอกลวงคนไทยและเบิกถอนเงิน ที่เดินทางข้ามแดนผ่านช่องทางของตำรวจตรวจคนเข้าเมืองและช่องทางธรรมชาติ โดยให้ดำเนินคดีกับผู้นำพาอย่างจริงจัง

 

  1. ตรวจสอบอุปกรณ์อย่างเข้มงวด ทั้งการลักลอบขนส่งเงิน, อุปกรณ์มือถือ, SIM Box ผ่านช่องทางของตำรวจตรวจคนเข้าเมืองและช่องทางธรรมชาติ

 

โดยจากการลงพื้นที่ร่วมกับ กสทช. ในครั้งนี้ตรวจสอบพบเสาสัญญาณจำนวน 3 จุด บริเวณที่ใกล้กับแนวชายแดนมากที่สุด น่าเชื่อว่ามีการส่งสัญญาณไปยังบริเวณตึก 25 ชั้น ซึ่งในขณะนี้ กสทช. สั่งให้ระงับสัญญาณดังกล่าวและจะดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการควบคุม กำกับดูแล และติดตามประเมินผลการปฏิบัติอย่างใกล้ชิด ว่าการกระทำผิดกฎหมายหลอกลวงประชาชนคนไทยโดยกลุ่มอาชญากรรมข้ามชาตินั้นลดลงไปหรือไม่

 

นอกจากนี้ ขอประชาสัมพันธ์ไปยังกลุ่มชาวไทยที่จะเดินทางข้ามแดนไปทำงานให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งถือเป็นการขายชาติ ไปช่วยเหลือกลุ่มอาชญากรรมของคนต่างชาติมาหลอกลวงคนไทย จะต้องถูกดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X