วันนี้ (23 เมษายน) พล.ต.ต. นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ประชุมติดตามความคืบหน้าสำนวนคดีอาคารถล่มของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่ สถานีตำรวจนครบาล (สน.) บางซื่อ พร้อมเปิดเผยว่า ขณะนี้คณะพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้เกี่ยวข้องไปแล้วกว่า 100 ปาก
ประกอบด้วย:
- เจ้าหน้าที่ สตง. และบริษัทที่เกี่ยวข้อง: 56 ราย
- ประจักษ์พยาน: 51 ราย
- ผู้บาดเจ็บ: 7 ราย
- ญาติผู้เสียชีวิต: 35 ราย
พล.ต.ต. นพศิลป์ กล่าวว่า ได้ส่งพยานหลักฐานสำคัญ เช่น เหล็กและปูน ไปตรวจพิสูจน์เพิ่มเติม และกำลังเร่งรัดผลการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งผลการวิเคราะห์หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์, ผลการตรวจสอบแบบแปลนอาคารจากสภาวิศวกรและวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ รวมถึงผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคณะกรรมการที่รัฐบาลแต่งตั้งขึ้น
อย่างไรก็ตาม ยังมีเอกสารสำคัญบางส่วนที่ทาง สตง. ยังส่งมอบให้พนักงานสอบสวนไม่ครบถ้วน เช่น เอกสารเกี่ยวกับวัสดุก่อสร้าง, เอกสารการตรวจรับงานทั้ง 22 งวด และสัญญาจ้างที่มีการแก้ไข ซึ่งทาง สตง. แจ้งว่าอยู่ระหว่างรวบรวม และนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้เร่งรัดแล้ว
ส่วนกรณีการปลอมลายเซ็นในเอกสารนั้น ทาง สตง. ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับ 3 บริษัทผู้ควบคุมงานแล้ว และเจ้าหน้าที่ สตง. ได้เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมในวันนี้ พร้อมทั้งจะนำเอกสารที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเอกสารที่คาดว่ามีการปลอมลายมือชื่อวิศวกร มามอบให้เพิ่มเติม ขณะเดียวกัน ตำรวจกำลังตรวจสอบรายชื่อวิศวกรที่เกี่ยวข้องทั้งหมดว่าเป็นวิศวกรตัวจริงหรือไม่
สำหรับ พิมล อายุ 85 ปี ซึ่งมีชื่อปรากฏเป็นหนึ่งในผู้ออกแบบอาคาร ได้เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนแล้ว โดยให้การอ้างว่า ตนเป็นเพียงที่ปรึกษาโครงการ ได้รับค่าจ้างจากการให้คำปรึกษาด้านการออกแบบเพียงครั้งเดียวเป็นเงิน 150,000 บาท และได้ลงนามในเอกสารในฐานะที่ปรึกษาเท่านั้น หลังจากนั้นไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินการในส่วนอื่นๆ
พล.ต.ต. นพศิลป์ ยืนยันว่า หากผลการตรวจสอบและพยานหลักฐานทั้งหมดชี้ชัดว่าบุคคลหรือบริษัทใดมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย การพิจารณาออกหมายจับจะเกิดขึ้นได้เมื่อได้รับผลการตรวจสอบที่ชัดเจนจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และกรมโยธาธิการและผังเมือง
รอง ผบช.น. กล่าวปิดท้ายว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาลได้ตั้งคณะทำงานสืบสวนสอบสวนคดีนี้ขึ้นมาโดยเฉพาะ และทุกฝ่ายทำงานอย่างเต็มที่ จริงจัง ตรงไปตรงมา ตามพยานหลักฐานที่มีอยู่ทั้งหมด โดยไม่มีการแทรกแซง เพื่อให้ความจริงปรากฏและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยเฉพาะครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้
