วันนี้ (22 สิงหาคม) วสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เปิดเผยว่า กสม. ได้ตรวจสอบข้อร้องเรียนกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าจับกุมกลุ่มบุคคลหลากหลายทางเพศในโรงแรมแห่งหนึ่ง โดยมีข้อกล่าวหาว่าปฏิบัติหน้าที่ไม่เหมาะสมหลายประการ ทั้งการไม่ให้ผู้ถูกจับกุมแต่งกายให้เรียบร้อยขณะอยู่ในสภาพเปลือยท่อนบน, การปล่อยให้มีภาพถ่ายเผยแพร่สู่สาธารณะ, การตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดแบบเหมารวม และการใช้กุญแจมือเกินสมควรแก่กรณี ซึ่งเป็นการกระทำที่กระทบต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
จากการพิจารณา กสม. มีความเห็นว่า การเข้าตรวจค้นขณะผู้ต้องสงสัยเปลือยท่อนบน ไม่ถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน เนื่องจากเป็นสถานการณ์จำเป็นเร่งด่วน เพื่อป้องกันการทำลายหลักฐานและเป็นไปตามอำนาจหน้าที่ตามหลักประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
อย่างไรก็ตาม การที่มีภาพผู้ต้องหาในสภาพดังกล่าวหลุดออกไปสู่สื่อสังคมออนไลน์ ถือเป็น การกระทำที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างชัดเจน เพราะกระทบต่อสิทธิในความเป็นอยู่ส่วนตัว เกียรติยศ และเป็นการลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ แม้จะไม่ปรากฏหลักฐานว่าใครเป็นผู้ปล่อยภาพก็ตาม
นอกจากนี้ กสม. มีข้อสังเกตว่า การตรวจสารเสพติดควรคำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และความหลากหลายทางเพศ กรณีนี้พบว่าการตรวจปัสสาวะดำเนินการในสภาพที่อาจก่อให้เกิดความอับอายแก่ผู้ต้องหาที่เป็นบุคคลหลากหลายทางเพศ แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะยืนควบคุมและห้ามบุคคลอื่นเข้าไป แต่ยังมีลักษณะไม่เหมาะสม รวมถึง การใช้กุญแจมือกับผู้ต้องหาคดียาเสพติดซึ่งไม่ใช่คดีร้ายแรง ถือว่า เกินกว่าความจำเป็นและไม่ได้สัดส่วน
ด้วยเหตุนี้ กสม. จึงมีมติเสนอแนะให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กำหนดมาตรการที่รัดกุมเพื่อป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลและภาพถ่ายจากการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมลงโทษผู้ที่นำไปเผยแพร่ รวมถึงให้ทบทวนแนวทางการใช้เครื่องพันธนาการให้ได้สัดส่วนกับความจำเป็น
และให้ ตร. กำหนดระเบียบและแนวปฏิบัติที่คำนึงถึงความละเอียดอ่อนต่อเพศภาวะ (gender sensitivity) โดยเฉพาะการจัดสถานที่ตรวจปัสสาวะและห้องน้ำภายในสถานีตำรวจให้เหมาะสมกับบุคคลทุกเพศ เพื่อส่งเสริมความเท่าเทียมและไม่เลือกปฏิบัติ