วานนี้ (24 พฤศจิกายน) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีรายงานว่า พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้ลงนามในคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 552/2565 เรื่อง แต่งตั้งที่ปรึกษาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า
ด้วยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีภารกิจสำคัญที่จะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ทั้งในด้านการปฏิรูปตำรวจ การป้องกันปราบปรามอาชญากรรม การสืบสวนสอบสวนคดีอาญา การรักษาความมั่นคง และความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ
ซึ่งจะต้องมีการบริหารจัดการทรัพยากรทางการบริหารในทุกด้านเพื่อรองรับภารกิจดังกล่าว ให้สามารถรองรับการขับเคลื่อนงานตามนโยบายที่สำคัญให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชน เพื่อให้การปฏิบัติภารกิจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 63 แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 และหนังสือกรมบัญชีกลาง ที่ กค 0420/42871 ลงวันที่ 2 พฤศจิกายน อนุมัติให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติจ่ายค่าตอบแทนในการปฏิบัติงานให้แก่ผู้ที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ เพื่อปฏิบัติงานในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านต่างๆ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 3 ราย จึงแต่งตั้งบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถและมีประสบการณ์เป็นที่ปรึกษา ดังนี้
1. พล.ต.อ. ปิยะ อุทาโย เป็นที่ปรึกษาด้านการปฏิรูปตำรวจ โดยมีหน้าที่ ดังนี้
1.1 ให้ข้อมูลและให้คำปรึกษาแก่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือตำแหน่งเทียบเท่า ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือตำแหน่งเทียบเท่า รวมทั้งผู้บังคับบัญชาของหน่วยงานระดับรองลงมาที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปตำรวจ การจัดทำกฎลำดับรองและการดำเนินการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565
1.2 ประสานงานกับผู้เกี่ยวข้องเพื่อรวบรวมข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับการปฏิรูปตำรวจ และแนวทางการประชาสัมพันธ์ พร้อมทั้งนำเสนอข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ เพื่อประกอบการพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
1.3 ถ่ายทอดงานให้แก่รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือตำแหน่งเทียบเท่า ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือตำแหน่งเทียบเท่า และผู้บังคับบัญชาของหน่วยงานที่รับผิดชอบงานเกี่ยวกับการปฏิรูปตำรวจ
1.4 ให้คำปรึกษาในด้านอื่นๆ ตามที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะได้มอบหมายตามที่เห็นสมควร
2. พล.ต.อ. ปรีชา เจริญสหายานนท์ เป็นที่ปรึกษาด้านการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางเทคโนโลยี โดยมีหน้าที่ ดังนี้
2.1 ให้ข้อมูลและให้คำปรึกษาแก่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือตำแหน่งเทียบเท่า ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือตำแหน่งเทียบเท่า รวมทั้งผู้บังคับบัญชา ของหน่วยงานระดับรองลงมาที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดทางเทคโนโลยี การประสานงานกับส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และองค์กรธุรกิจเอกชนเพื่อพัฒนาแนวทางการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พัฒนาองค์กรสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้มีศักยภาพในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
2.2 ประสานงานกับผู้เกี่ยวข้องเพื่อรวบรวมข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดทางเทคโนโลยี พร้อมทั้งนำเสนอข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์เพื่อประกอบการพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
2.3 ถ่ายทอดงานให้แก่รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือตำแหน่งเทียบเท่า ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือตำแหน่งเทียบเท่า และผู้บังคับบัญชาของหน่วยงานที่รับผิดชอบงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
2.4 ให้คำปรึกษาในด้านอื่นๆ ตามที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะได้มอบหมาย ตามที่เห็นสมควร
3. พล.ต.ท. วิเชียร ตันตะวิริยะ เป็นที่ปรึกษาด้านการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม และนิติวิทยาศาสตร์ โดยมีหน้าที่ดังนี้
3.1 ให้ข้อมูลและให้คำปรึกษาแก่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือตำแหน่งเทียบเท่า ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือตำแหน่งเทียบเท่า รวมทั้งผู้บังคับบัญชาของหน่วยงานระดับรองลงมาที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนางานนิติวิทยาศาสตร์ การใช้นิติวิทยาศาสตร์ในการสืบสวนสอบสวนตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดในการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม
3.2 ประสานงานกับผู้เกี่ยวข้องเพื่อรวบรวมข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับการพัฒนางานนิติวิทยาศาสตร์ การใช้นิติวิทยาศาสตร์ในการสืบสวนสอบสวน พร้อมทั้งนำเสนอข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์เพื่อประกอบการพิจารณา ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
3.3 ถ่ายทอดงานให้แก่รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือตำแหน่งเทียบเท่า ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือตำแหน่งเทียบเท่า และผู้บังคับบัญชาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องงานนิติวิทยาศาสตร์
3.4 ให้คำปรึกษาในด้านอื่นๆ ตามที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะได้มอบหมาย ตามที่เห็นสมควร
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2566 สั่ง ณ วันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565