วันนี้ (14 ธันวาคม) ที่รัฐสภา ในการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ตำรวจ โดยมี ชัยชนะ เดชเดโช สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานกรรมาธิการ (กมธ.) การตำรวจ กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมาธิการการตำรวจ ในการพิจารณาเรื่องร้องเรียนของ วัชระ เพชรทอง อดีต สส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ที่ขอให้ตรวจสอบการควบคุมนักโทษที่เข้ารับการรักษาพยาบาล และพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยมี นัสที ทองประหลาด ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษ และ พล.ต.ต. สามารถ ม่วงศิริ นพ. (สบ.7) รพ.ตำรวจ เข้าชี้แจง
โดยผลการประชุมในวันนี้ วัชระ และ ณัฐพงษ์ สุมโนธรรม สส. สมุทรสาคร พรรคก้าวไกล ในฐานะ กมธ.ตำรวจ ได้ตั้งคำถามกับกรมราชทัณฑ์ ถึงขั้นตอนในการรับนักโทษชาย ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่ามีกระบวนการขั้นตอน วิธีการวินิจฉัย ก่อนจะส่งตัวไปโรงพยาบาลตำรวจอย่างไร มีโรงพยาบาลใดบ้างที่ทำ MOU ร่วมกับกรมราชทัณฑ์ งบประมาณที่ใช้ในการรักษานักโทษมีอะไรบ้าง ทำไมการเดินทางไปเรือนจำของนักโทษชายทักษิณจึงไม่ใช้รถของเรือนจำ แต่ก็เป็นที่น่าผิดหวัง เพราะเราไม่ได้รับคำตอบที่กระจ่างจากกรมราชทัณฑ์
ทั้งนี้ ตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ เมื่อเข้าสู่เรือนจำในวันแรกนักโทษจะต้องมีการกักตัวก่อน จึงจะสามารถย้ายจากแดน 7 ไปรักษาตัวในแดน 2 แต่นักโทษชายทักษิณกลับถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลตำรวจภายในคืนนั้น รักษาการผู้อำนวยการราชทัณฑ์ได้ชี้แจงว่า แพทย์ไม่ได้วินิจฉัยให้ส่งตัวไปยังโรงพยาบาลตำรวจ เป็นเพียงการปรึกษาหารือกันระหว่างแพทย์ในคืนนั้น
แพทย์ได้กล่าวว่า โรงพยาบาลราชทัณฑ์น่าจะมีศักยภาพไม่เพียงพอ จึงหารือกันว่าควรจะส่งตัวไปโรงพยาบาลใด แต่โดยธรรมเนียมปฏิบัติแล้ว กรมราชทัณฑ์จะต้องส่งตัวไปที่โรงพยาบาลแม่ข่ายที่สังกัดอยู่ในกระทรวงสาธารณสุข เนื่องจากนักโทษทุกคนต้องใช้งบประมาณของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ซึ่งตนได้รับคำยืนยันจากแพทย์ของโรงพยาบาลราชทัณฑ์ว่า ไม่ได้วินิจฉัยให้ส่งตัวไปยังโรงพยาบาลในคืนนั้น หรือคำถามที่ผู้บัญชาการเรือนจำชี้แจงว่า กรมราชทัณฑ์มี MOU กับโรงพยาบาลอยู่ แต่ฝ่ายวิชาการของกรมราชทัณฑ์บอกว่า ไม่มีการทำ MOU กับโรงพยาบาลแม่ข่ายของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นคำตอบที่ไม่ตรงกัน
เตรียมขึ้นชั้น 14 รพ.ตำรวจ เข้าตรวจสอบ
ชัยชนะกล่าวต่อว่า กรมราชทัณฑ์ตอบไม่ได้ว่าทำไมถึงไม่ต้องกักตัว ไม่ต้องตัดผม ต้องอยู่ชั้น 14 ของโรงพยาบาลตำรวจ ดังนั้น กมธ.ตำรวจ และผู้ร้องเห็นว่า ในเมื่อผู้ที่เข้ามาชี้แจงไม่สามารถตอบคำถามอย่างกระจ่างชัดเจนต่อตัวผู้ร้องและสังคมไทยได้ กมธ.ตำรวจ จึงจะจัดทำหนังสือเชิญและขอเอกสารจาก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ปลัดกระทรวงยุติธรรม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ก่อน แล้วจะเรียกเข้ามาชี้แจงต่อ กมธ.ตำรวจ อีกครั้ง แต่ยังไม่มีการกำหนดวัน
เมื่อได้รับคำชี้แจงเป็นที่ประจักษ์แล้ว ในช่วงหลังปีใหม่ก่อนวันเด็กแห่งชาติ เราจะเดินทางไปที่โรงพยาบาลตำรวจเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า ทักษิณได้พักรักษาตัวอยู่จริงหรือไม่ ถือเป็นของขวัญวันเด็ก
เมื่อถามว่า หากมีการเชิญเข้าชี้แจงอีกครั้งแล้วยังไม่ได้ความชัดเจนอีกจะมีการดำเนินการอย่างไร ชัยชนะกล่าวว่า ก็ถือว่ากรมราชทัณฑ์ตกเป็นจำเลยสังคม เนื่องจากตอบไม่ชัดเจน แล้วจะไปต่อได้อย่างไร มีนักโทษหลายคนที่ต้องออกมารักษาตัว และใช้งบของ สปสช. แต่ทำไมทักษิณถึงได้พักชั้น 14 เหนือกว่าคนอื่น ในเมื่อใช้งบ สปสช. เหมือนกัน
“สังคมไทยจะเดินหน้าไปได้ต้องไม่มีความเหลื่อมล้ำ ถ้ายังสองมาตรฐานอยู่ สังคมจะยืนอยู่ได้อย่างไร” ชัยชนะกล่าว
จ่อตั้งกระทู้ถาม ‘นายกฯ’ เร่งออกระเบียบใหม่ เอื้อใครหรือไม่
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ในที่ประชุมได้มีการถามถึงระเบียบใหม่ของกรมราชทัณฑ์ เนื่องจากถูกเชื่อมโยงว่าอาจเอื้อประโยชน์ให้ทักษิณไม่ต้องเข้าเรือนจำหรือไม่ ชัยชนะกล่าวว่า ยังไม่มีการชี้แจงเรื่องนี้ เพราะคำถามที่เราถามว่า ทำไมจึงไม่ต้องกักตัวทักษิณยังตอบไม่ชัด เมื่อตอบไม่ได้จึงยังไม่สามารถไปถึงระเบียบใหม่ของราชทัณฑ์ตรงนั้น
ชัยชนะกล่าวต่อว่า แม้กฎกระทรวงออกมาตั้งแต่ปี 2563 และมีการแก้ระเบียบในปี 2564 ก็จริง แต่มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่อนุญาตให้ระเบียบดังกล่าวถูกประกาศใช้ แต่กลับถูกประกาศใช้ในยุคของรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งการประกาศใช้ทันที
“สังคมไทยคงทราบว่าทำเพื่อใคร ซึ่ง กมธ.ตำรวจ จะต้องมีการตั้งคำถามในสภา เริ่มจากตั้งกระทู้ถามสดต่อนายกรัฐมนตรี ตามพรรคการเมืองที่ได้รับมอบหมายไปว่า มีความเร่งรีบอะไรถึงต้องออกระเบียบดังกล่าว ออกมาเพื่อรองรับใครหรือไม่” ชัยชนะกล่าว
ชัยชนะกล่าวด้วยว่ามีเรื่องข้างต้นอยู่ในการประชุมวันนี้ แต่ผู้เข้าชี้แจงไม่สามารถตอบคำถามเรื่องการกักตัวของทักษิณได้ ตนจึงบอกว่าในเมื่อตอบไม่ได้ก็ยุติการประชุมดีกว่า เพราะตอบไม่ได้สักคำถาม