×

ตำรวจนำ 25 แกนนำ ไทยไม่ทนฯ ส่งอัยการศาลแขวงยื่นฟ้องผิด 4 ข้อหา เลขาฯ ครป. เผยยื่นร้องขอความเป็นธรรมเป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ

โดย THE STANDARD TEAM
13.09.2021
  • LOADING...
United People for Thailand UPT

วันนี้ (13 กันยายน) ที่สำนักงานอัยการพิเศษ คดีศาลแขวง 3 ถนนบรมราชชนนี เขตตลิ่งชัน พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาล (สน.) นางเลิ้ง ส่งตัวพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง 25 แกนนำ ‘ไทยไม่ทน คณะสามัคคีประชาชน เพื่อประเทศไทย’ ให้อัยการพิเศษศาลแขวง ในความผิดฐานร่วมกันฝ่าฝืนข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 15) ข้อ 3, ร่วมกันวาง ตั้ง ยื่น หรือแขวนสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือกระทำด้วยประการใดๆ ในลักษณะที่เป็นกีดขวางการจราจร ตามพระราชบัญญัติการจราจรทางบก พ.ศ. 2522, ร่วมกันตั้ง วาง หรือกองวัตถุใดๆ บนพื้นถนน ตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 และร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ. 2493 รวมทั้งสิ้น 4 ข้อหา

 

สืบเนื่องจากการจัดชุมนุมสะพานผ่านฟ้า-ทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 24, 26 มิถุนายน และ 3, 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา 

 

โดยรายชื่อผู้ต้องหาทั้งหมดประกอบไปด้วย วีระ สมความคิด, เมธา มาสขาว, ธนาวุฒิ วิชัยดิษฐ์, ธิษะณา ชุณหะวัณ, จำนงค์ หนูพันธ์, ไทกร พลสุวรรณ์, ยศวริศ ชูกล่อม, นันทพงษ์ ปานมาศ, ส.อ. ณรงค์ชัย อินทรกวี, ณัทพัช อัคฮาด, ธนเดช ศรีสงคราม (ม่อน อาชีวะ), จอมพล รุ่งเรืองชูเลิศ, เศวต ทินกูล, พงศ์พิเชษฐ์ สุขจินดาทอง, กัญญารัตน์ บุญรีบส่ง, พราหมศักดิ์รพี พรหมชาติ, วันเฉลิม กุนเสน, ชินวัตร จันทร์กระจ่าง, วรพล แกมขุนทด, สุรเดช นาจำปา, คุณานนท์ คุณานุวัฒน์, วรัญญา ศิริปัญญา, สุวรรณ์ อันสังข์, ธนยศ ชินพันธุ์ และ พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ 

 

ด้าน เมธา ซึ่งเป็นเลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) และแกนนำไทยไม่ทนฯ กล่าวว่า ตนได้หนังสือขอความเป็นธรรมต่อพนักงานอัยการว่า หลังจากปฏิเสธข้อกล่าวหาแล้ว ได้ให้การเพิ่มเติมเป็นลายลักษณ์อักษรแก่พนักงานสอบสวนลงวันที่ 9 กันยายน 2564 รวมถึงแนบภาพถ่ายการชุมนุมในวันดังกล่าวประกอบที่แสดงถึงข้อขัดแย้งกับข้อกล่าวหาของพนักงานสอบสวนโดยสิ้นเชิง และได้ขอให้สอบพยานเพิ่มเติมอีก 4 คนเพื่อประโยชน์แก่ผู้ต้องหา ในการพิสูจน์ข้อเท็จจริงและเพื่อประโยชน์ในการพิสูจน์ให้เห็นความบริสุทธิ์ของผู้ถูกกล่าวหาเพิ่มเติมตามคำให้การ รวมถึงขอให้สอบหาข้อเท็จจริงว่าในการชุมนุมดังกล่าวมีประชาชนผู้ติดเชื้อโควิดจากการชุมนุมตามข้อกล่าวหาหรือไม่ เพราะข้อเท็จจริงผู้ร่วมชุมนุมทั้งหมดในวันดังกล่าวมีมาตรการป้องกันการแพร่หรือการติดเชื้อโควิดเป็นอย่างดี จนถึงปัจจุบันก็ไม่พบว่าการชุมนุมนั้นเป็นเหตุให้มีการแพร่ระบาดเชื้อโควิดแต่อย่างใด ทั้งยังเป็นการชุมนุมโดยชอบด้วยรัฐธรรมนูญตามรายละเอียดในคำให้การเพิ่มเติมที่อ้างถึง

 

แต่พนักงานสอบสวนไม่ได้สอบพยานเพิ่มเติมเพื่อประโยชน์ในการพิสูจน์ให้เห็นความบริสุทธิ์ของผู้ถูกกล่าวหา แต่กลับเร่งรีบยื่นส่งสำนวนสอบสวนที่ขาดการพิสูจน์ความผิดให้พนักงานอัยการในวันนี้ รวมถึงในคดีอาญาเดียวกันทั้งหมดนั้น มีผู้ถูกตั้งข้อหาทั้งสิ้น 32 คน แต่พนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ยังสอบผู้ต้องหายังไม่แล้วเสร็จ และนำส่งสำนวนคดีทั้งสิ้นเพียง 25 คนเท่านั้น อีก 7 คนที่เหลือประกอบไปด้วย จตุพร พรหมพันธุ์, สมบูรณ์ ทองบุราณ, เสกข์สืบพงศ์ วงศ์สมัก, ธนชาติ ไชยทองพันธ์, พ.ท.พญ.กมลพรรณ ชีวพันธ์ศรี, พงษ์พิสิษฐ์ คงเสนา และ อานนท์ แม้นเพชร 

 

เมธา กล่าวต่อไปด้วยว่า การเร่งรัดนำส่งคดีดังกล่าวทั้งที่ยังไม่แล้วเสร็จ น่าจะถูกฝ่ายการเมืองกดดันเร่งรัดดำเนินคดีประชาชน จึงเป็นการสอบสวนที่ไม่ครบถ้วนตามหลักการว่าด้วยการสอบสวนและประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ทั้งๆ ที่พนักงานสอบสวนยังสามารถรวบรวมหลักฐานต่างๆ ได้อีกมากเพื่อทราบข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ต่างๆ อันจะพิสูจน์ให้เห็นความบริสุทธิ์ของผู้ต้องหาได้ สมควรสั่งการให้สอบให้เสร็จสิ้นครบทุกคนเสียก่อนเพื่อรวมเป็นคดีเดียวกัน จึงขอความเป็นธรรมให้พนักงานอัยการได้ชะลอเวลาออกไปเพื่อความสมบูรณ์ของสำนวนสอบสวน และสั่งพนักงานสอบสวนให้สอบพยานเพิ่มเติมด้วย เพื่อประโยชน์ของจำเลยที่ถูกกล่าวหาโดยมิชอบ และพิสูจน์ว่าการพิจารณาการแจ้งความโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.นางเลิ้ง อาจถือเป็นการแจ้งความเท็จหรือไม่ เนื่องจากเป็นที่ประจักษ์ชัดว่า ผู้ร่วมชุมนุมทั้งหลายนั้นไม่มีผู้ใดติดเชื้อโควิด และไม่มีการสอบสวนหาผู้ติดเชื้อโควิดในที่ชุมนุมดังกล่าวแต่อย่างใด ซึ่งเป็นสิ่งยืนยันว่าการร่วมชุมนุมและจัดการชุมนุมไม่ได้มีลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดหรือเป็นสาเหตุที่ก่อเกิดโรคโควิดดังที่ตั้งข้อหา รวมถึงการจัดให้มีการตรวจคัดกรองอุณหภูมิ การนั่งรักษาระยะห่าง ตามภาพที่มอบให้พนักงานสอบสวนนั้น ขัดแย้งกับการตั้งข้อกล่าวหาอย่างชัดเจน

 

“ด้วยเหตุนี้การตั้งข้อหาต่อของคณะไทยไม่ทนฯ จึงไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญและกฎหมายดังกล่าว และมีลักษณะที่เจตนาและจงใจที่จะให้เกิดความเสียหายให้แก่ผู้ต้องหาเพื่อประโยชน์ของตนเองหรือบุคคลอื่นโดยมิชอบ และทำให้เสียเวลาพนักงานอัยการในการพิจารณาคดีที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน การสอบไม่ครบถ้วนกระบวนความ สอบผู้ต้องหาไม่ครบทุกคนและแยกสำนวนนำส่ง ทำให้คดีรกศาล รกสำนักงานอัยการ เป็นภาระมากเกินจำเป็นในกระบวนการยุติธรรมทั้งในเรื่องเวลาและค่าใช้จ่ายของราชการที่มาจากภาษีของประชาชน” เมธา กล่าว 

 

เมธา ยังกล่าวต่อไปอีกว่า หากพนักงานอัยการได้สั่งให้ทำการสอบสวนพยานบุคคลและพยานหลักฐานต่างๆ ดังกล่าวข้างต้นโดยครบถ้วนสมบูรณ์แล้วจะได้ข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ที่ชี้ได้ว่าตนไม่ได้กระทำความผิดตามข้อกล่าวหา และการดำเนินคดีนี้มิได้เป็นประโยชน์แก่สาธารณแต่ประการใด ขอพนักงานอัยการได้โปรดมีคำสั่งไม่ฟ้องต่อไป

 

เมธา ยังกล่าวต่อไปว่า ส่วนการเร่งรัดดำเนินคดีโดยอ้างจำนวนวันผัดฟ้องไม่ถูกต้อง เพราะความจริงแล้วพนักงานสอบสวนไม่ได้ถูกจำกัดโดยกำหนดเวลาผัดฟ้องแต่อย่างใด เพราะตามมาตรา 7 แห่ง พ.ร.บ. พิจารณาคดีศาลแขวง ใช้กับผู้ต้องหาที่ถูกจับเพื่อคุ้มครองผู้ต้องหาดังกล่าวไม่ให้พนักงานสอบสวนถ่วงคดี อันเป็นการจำกัดอิสระเสรีภาพของผู้ต้องหา ไม่ใช้ผู้ต้องหาที่มอบตัวและไม่อยู่ในการควบคุมตัวเช่นพวกเรา และผู้ต้องหาคดีการเมืองแบบนี้ทุกคนจะต้องได้รับการประกันตัว เพื่อต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรมขั้นพื้นฐาน อย่าผลักใสให้ผู้บริสุทธ์ต้องไปติดโควิดในคุก โดยรัฐยัดเยียดโรคติดต่อร้ายแรงให้ ทั้งๆ ที่พวกเขาป้องกันตนเองตลอดเวลาเพราะพึ่งพานโยบายรัฐบาลที่ล้มเหลวของรัฐบาลไม่ได้ จะต้องให้ประกันตัวแกนนำประชาชนทุกกลุ่มโดยเร็ว 

 

“นอกจากนี้ผมขอเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิก พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ที่ใช้เป็นข้ออ้างละเมิดสิทธิประชาชน โดยเฉพาะกับประชาชนผู้เห็นต่างทางการเมืองโดยเร็วที่สุด ก่อนที่กระบวนการยุติธรรมจะถูกทำลายไปมากกว่านี้ และประกาศใช้เพียง พ.ร.บ. โรคติดต่อ ก็เพียงพอแล้ว โดยไม่จำเป็นต้องแก้ไขใหม่ โดยแอบยัดไส้การนิรโทษกรรมความผิดฝ่ายการเมืองในการใช้อำนาจบริหารจัดการผิดพลาดด้วย เพราะจะต้องมีการรับผิดชอบทางกฎหมายในอนาคตตามระบบนิติธรรม” เมธา กล่าวในที่สุด 

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X