วันนี้ (20 พฤศจิกายน) ในการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 10/2567 ซึ่งมี แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีการหารือวาระสำคัญคือ วาระที่ 4 เรื่องที่ 4 การคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ วาระประจำปี 2567 ระดับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ถึงผู้บัญชาการ (ผบช.)
นายกรัฐมนตรีกล่าวเริ่มต้นการประชุมว่า การประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจในวันนี้มีเรื่องที่ต้องพิจารณาหลายเรื่องตามกรอบ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ทั้งเรื่องการพิจารณาให้ความเห็นชอบ การแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติระดับผู้บัญชาการขึ้นไป ที่จำเป็นต้องได้บุคลากรที่สามารถบริหารจัดการให้ตำรวจในความรับผิดชอบตอบสนองต่อการบริการประชาชน และรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคม ตามกรอบการพิจารณาที่กฎหมายกำหนดไว้ จึงขอให้ที่ประชุมร่วมกันพิจารณาด้วยความละเอียดรอบคอบตามระเบียบกฎหมาย เพื่อให้การบริหารงานคนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยคำนึงถึงประโยชน์ของราชการเป็นสำคัญ
โดยก่อนการประชุม ก.ตร. พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. นำบัญชีรายชื่อที่ผ่านคณะกรรมการพิจารณารายชื่อตำรวจที่มีการประชุมเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา หารือกับนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีข่าวว่า ก.ตร. ปรับเปลี่ยนกฎเกณฑ์การแต่งตั้งโยกย้ายตำแหน่ง ผบช. เดิม ให้ผู้ที่ครองตำแหน่งรอง ผบช. 2 ปีขึ้นไปเป็น ผบช. ปรับเป็นรอง ผบช. ต้องครองตำแหน่ง 3 ปีถึงจะเป็น ผบช. ได้
ยกเว้น พล.ต.ต. วีรชน บุญทวี รอง ผบช.ภ.5 (นรต.41) ตำรวจสายของ ร.ต.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขึ้นเป็น ผบช.
สำหรับตำแหน่งว่างระดับรอง ผบ.ตร. 4 ตำแหน่ง และผู้ช่วย ผบ.ตร. 7 ตำแหน่ง ดังนี้
ระดับรอง ผบ.ตร. เป็นการพิจารณาแต่งตั้งเรียงตามลำดับอาวุโส โดยจะเลื่อน พล.ต.ท. ประจวบ วงศ์สุข, พล.ต.ท. นิรันดร เหลื่อมศรี, พล.ต.ท. กรไชย คล้ายคลึง และ พล.ต.ท. ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. ขึ้นเป็นรอง ผบ.ตร.
ระดับผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นการพิจารณาแต่งตั้งเรียงตามลำดับอาวุโส โดยจะเลื่อน พล.ต.ท. ธนพล ศรีโสภา จตร. (หัวหน้าจเรตำรวจ), พล.ต.ท. ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ท. อภิชาติ เพชรประสิทธิ์ ผบช.ส., พล.ต.ท. กฤษฎา สุรเชษฐพงศ์ ผบช.สกบ., พล.ต.ท. อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม., พล.ต.ท. สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.2 และ พล.ต.ท. สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ภ.4 ขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร.
ทั้งนี้ ระดับ ผบช. พิจารณาแต่งตั้งจากผู้มีอาวุโสไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของตำแหน่งที่ว่าง คิดเป็น 7 ตำแหน่ง ได้แก่
- พล.ต.ต. บัณฑิต ตุงคะเศรณี รอง ผบช.ภ.6
- พล.ต.ต. ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รอง ผบช.สตม.
- พล.ต.ต. วราวุธ สกลธนารักษ์ รอง ผบช.สตส.
- พล.ต.ต. ฉัตรชัย สุรเชษฐพงษ์ รอง ผบช.ภ.2
- พล.ต.ต. อาทิชา เปาอินทร์ รอง ผบช.ภ.7
- พล.ต.ต. ไพศาล ลือสมบูรณ์ รอง ผบช.ภ.5
- พล.ต.ต. สุรจิต ชิงนวรรณ์ รอง ผบช.ภ.2
กระทั่งเวลา 17.00 น. มีการพักการประชุมเป็นเวลา 30 นาที จนในเวลา 18.35 น. เสร็จสิ้นการประชุม แพทองธารไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ส่วน พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า การจัดทำบัญชีนายพลเป็นไปอย่างเรียบร้อยหรือไม่ พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ ไม่ได้ตอบคำถาม แต่ทำสัญลักษณ์มือ ยกนิ้วโป้งให้เท่านั้น
ด้าน พล.ต.ท. อนุชา รมยะนันทน์ เลขานุการ ก.ตร. ระบุว่า วันนี้ที่ประชุมมีการพิจารณานายตำรวจระดับรอง ผบ.ตร. จนไปถึง ผบช. รวมทั้งหมด 41 ตำแหน่ง ซึ่งการพิจารณาเป็นไปตามข้อกฎหมาย ข้อระเบียบ และวิธีปฏิบัติที่ยึดระดับความอาวุโส ความรู้ และความสามารถ ประกอบกัน โดยที่ประชุมมีการหยิบยกรายชื่อบุคคลทุกตำแหน่งมาพิจารณาอย่างทั่วถึง เชื่อได้ว่าหลังจบการประชุมบุคคลที่ได้รับการพิจารณาแต่ละตำแหน่งจะมีความเหมาะสม
ส่วนที่มีกระแสข่าวระบุว่า ในที่ประชุมมีการถกเถียงเรื่องการครองตำแหน่งอายุราชการที่นำมาใช้ประกอบการพิจารณาเลื่อนตำแหน่ง พล.ต.ท. อนุชา กล่าวยอมรับว่า ในที่ประชุมนำรูปแบบดังกล่าวมาพิจารณาจริง แต่ไม่ได้เป็นการตัดสิทธิผู้มีอายุราชการเพียง 2, 3 และ 4 ปี แต่เป็นการพิจารณาทุกรายชื่อ ทุกตำแหน่ง เป็นไปด้วยความเหมาะสม ไม่ใช่ว่าให้นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นใดรุ่นหนึ่งมาดำรงตำแหน่งเป็นพิเศษ รวมทั้งกระแสที่ว่าจะคัดเลือกเฉพาะเพื่อน นรต. เดียวกับ ผบ.ตร.
พล.ต.ท. อนุชา กล่าวถึงการใช้เวลาพิจารณาวาระนี้นานกว่า 4 ชั่วโมง เนื่องจาก ก.ตร. ทุกท่านต้องการพิจารณาว่าคุณสมบัติแต่ละนายเป็นไปตามระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือไม่ ส่วนนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานได้นั่งควบคุมการประชุมตลอดเวลาจนแล้วเสร็จ พร้อมเปิดโอกาสให้คณะกรรมการทุกท่านร่วมแสดงความคิดเห็น โดยไม่มีข้อท้วงติงหรือสั่งการเรื่องใดเป็นพิเศษ
ประเด็นที่ว่าการแต่งตั้งนายพลครั้งนี้มีเรื่องของการเมืองเข้ามาแทรกแซงหรือไม่ พล.ต.ท. อนุชา ยืนยันว่าที่ประชุมไม่ได้พูดคุยเรื่องนี้ แต่หากบุคคลใดที่เห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม การฟ้องร้องเป็นสิทธิที่สามารถทำได้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การแต่งตั้งครั้งนี้จะทำให้หลายคนผิดหวังจนเสียน้ำตาหรือไม่ พล.ต.ท. อนุชา กล่าวว่า ตนเองไม่เห็นรายชื่อบุคคลใดมาก่อน ตนมารับรู้ในฐานะเลขานุการในที่ประชุมเท่านั้น