วันนี้ (21 ตุลาคม) พล.ต.ต. ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย พ.ต.อ. ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกตำรวจแห่งชาติ แถลงความคืบหน้าสถานการณ์ชุมนุมหลังรัฐบาลประกาศ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ในสถานการณ์ที่มีความร้ายแรง
พล.ต.ต. ปิยะ กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคมที่เริ่มมีการชุมนุม ทางตำรวจได้จับกุมแกนนำและแนวร่วมไปแล้ว 77 คน แบ่งเป็นความผิดกฎหมายอาญา 22 คน ฝ่าฝืน พ.ร.ก. ฉุกเฉิน 54 คน ขัดขืนคำสั่งเจ้าพนักงาน 1 คน โดยในจำนวนนี้มีกรณีที่ตำรวจของสถานีตำรวจนครบาลหลักสองได้ขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ฝ่าฝืน พ.ร.ก. ฉุกเฉิน จากการจัดชุมที่เดอะมอลล์ บางแค ทราบชื่อ 1 คนคือ ญาศิภัสมณี เรืองศิริสกุล และผู้เกี่ยวข้องตามภาพอีกจำนวนหนึ่ง ส่วนในพื้นที่อื่นๆ ของการชุมนุมเมื่อวานนี้ ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีตามกฎหมาย
ขณะที่แกนนำจะมีการประกาศ Big Surprise ในเวลา 12.00 น. ของวันนี้ ตำรวจมีความพร้อมทุกวัน และได้มีการจัดกำลังพลเสริมในการรับมือเพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชนและกลุ่มผู้ชุมนุม
นอกจากนี้ พล.ต.ต. ปิยะ ยังกล่าวถึงกลุ่มที่เห็นต่างจากกลุ่มผู้ชุมนุม ในขณะนี้และอาจจะมีการเผชิญหน้าระหว่างสองกลุ่มว่า ยอมรับว่าตำรวจมีความกังวล แต่ได้มีแผนในการรับมือไว้แล้ว โดยมอบหมายให้ผู้กำกับการแต่ละพื้นที่และมีอำนาจสั่งการ และสามารถประสานขอกำลังพลของกองบัญชาการตำรวจนครบาลเข้าไปสนับสนุนได้ทันทีหากมีการร้องขอ
ด้าน พ.ต.อ. ศิริวัฒน์ กล่าวถึงการเผยแพร่ข่าวปลอมในลักษณะว่าเจ้าหน้าที่จะใช้กระสุนจริงกับผู้ชุมนุม หรือสังหารหมู่ประชาชนและนักศึกษา ยืนยันว่าไม่มีคำสั่งให้ใช้กระสุนจริง และเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยหลังจากนี้จะมีการดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อผิด พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ กับ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน จึงขอให้ประชาชนอย่าไปหลงเชื่อและอย่าไปกดแชร์ ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ที่โพสต์ยุยงนี้อาศัยอยู่ในต่างประเทศ
ส่วนกรณีมีภาพข่าวตำรวจได้นำกำลังเข้าไปตรวจค้นจับกุมโรงงานผลิตหมวกกันน็อกสนับสนุนให้กับกลุ่มผู้ชุมนุม พ.ต.อ. ศิริวัฒน์ กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานชัดเจน แต่อาจเป็นไปได้ที่เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปจับกุมหมวกที่ผลิตไม่ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม แต่มีความเป็นไปได้ที่มีกลุ่มผู้ไม่หวังดีพยายามนำไปเกี่ยวข้องกับการชุมนุม โดยรายละเอียดทั้งหมดตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าข่าวดังกล่าวเป็นข่าวจริงหรือข่าวปลอม
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า