หลังจากมีโอกาสได้แสดงผลงานศิลปะเป็นครั้งแรกที่ Woof Pack Space ไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา นักร้องนำแห่งวงโมเดิร์นด็อก ป๊อด-ธนชัย อุชชิน ก็เปิดพื้นที่การสื่อสารทางอารมณ์อีกครั้งที่ Yelo House ครีเอทีฟสเปซแห่งใหม่ในซอยเกษมสันต์ 1 โดยมี อังกฤษ อัจฉริยโสภณ เป็นคิวเรเตอร์คัดเลือกงานเพื่อนำมารวมเป็นนิทรรศการศิลปะแอ็บสแตรกต์ ‘POD ART’ ที่ชวนผู้ชมมาสะท้อนความคิดของตนเองผ่านงานศิลปะที่เปี่ยมอารมณ์
งานดนตรีเป็นการบอกเล่าเรื่องราวเพื่อสื่อสารกับผู้อื่น แต่การทำงานศิลปะ สำหรับผมแล้วคือการสื่อสารกับตัวเอง ทำความเข้าใจกับอารมณ์ตนเอง สนทนากับตัวเอง รู้ว่าอารมณ์ในแต่ละวันของเราเป็นอย่างไร เหมือนเรามีเรดาห์เฝ้าจับมัน เรดาห์ข้างในมันก็จะบอกเราว่า เราต้องการสีม่วง สีขาว ลากเส้น เพื่อที่จะขยายสิ่งที่อยู่ข้างในออกไป หน้าที่ของผมคือเฝ้าดูปัจจุบันแล้วเอามันลงไปในผลงาน
“งานดนตรีเป็นการบอกเล่าเรื่องราวเพื่อสื่อสารกับผู้อื่น แต่การทำงานศิลปะ สำหรับผมแล้วคือการสื่อสารกับตัวเอง ทำความเข้าใจกับอารมณ์ตนเอง สนทนากับตัวเอง รู้ว่าอารมณ์ในแต่ละวันของเราเป็นอย่างไร เหมือนเรามีเรดาห์เฝ้าจับมัน เรดาห์ข้างในมันก็จะบอกเราว่า เราต้องการสีม่วง สีขาว ลากเส้น เพื่อที่จะขยายสิ่งที่อยู่ข้างในออกไป หน้าที่ของผมคือเฝ้าดูปัจจุบันแล้วเอามันลงไปในผลงาน ดังนั้น งานศิลปะที่ผมทำจึงเป็นงานแบบรายวัน คล้ายกับตื่นมาแปรงฟัน กินข้าว อาบน้ำ แต่ผมจะมีงานศิลปะเข้ามาด้วย ชิ้นเล็ก ชิ้นใหญ่ก็แล้วแต่อารมณ์ในวันนั้น เป็นงานศิลปะแอ็บสแตรกต์ที่ไม่มีเรื่องราว แต่ใช้อารมณ์ความรู้สึกในการสื่อสาร เพราะชีวิตเรามันก็มีช่วงหนึ่งที่ไม่ต้องการบอกเล่าเรื่องราวใดๆ ศิลปะก็สนองเราตรงนี้”
นี่คือคำจำกัดความศิลปะในแบบป๊อด ซึ่งคนส่วนใหญ่รู้จักเขาในฐานะนักร้อง คนทำเพลง ทว่าที่จริงแล้วเขามีพื้นฐานด้านศิลปะมาตั้งแต่ครั้งยังเป็นนิสิตคณะครุศาสตร์ เอกศิลปะ ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หลังเรียนจบ ป๊อดโลดแล่นอยู่ในวงการดนตรีมาโดยตลอด จนกระทั่งวันหนึ่งที่เขารู้สึกว่ามาถึงทางตัน ไม่สามารถสร้างสรรค์งานดนตรีได้อีกต่อไป นักร้องนำที่พ่วงตำแหน่งนักประพันธ์เพลงจึงขอพักงาน แล้วไปฝังตัวอยู่กับรุ่นพี่ที่นิวยอร์ก ซึ่งนั่นเป็นจุดเปลี่ยนเล็กๆ ที่ทำให้ป๊อดได้กลับมาจับพู่กันอีกครั้ง
“ประมาณปี 2000 มันมีจุดหนึ่งที่ตันไปหมด แต่งเพลงไม่ได้เลย ก็เลยหยุดพักทุกอย่างบินไปอยู่กับรุ่นพี่ครุศิลป์ที่นิวยอร์กประมาณหนึ่งเดือน รุ่นพี่เขาทำงานแอ็บสแตรกต์อยู่แล้ว เราก็ไปเป็นผู้ช่วยเขาหมุนๆ สี ทำไปเรื่อยๆ พอมันโล่ง เฮ้ย กลับคิดเพลงออกจนกลายเป็นที่มาของอัลบั้ม Love Me Love My Life ซึ่งงานศิลปะสำหรับผมไม่ได้ทำให้เขียนเพลงได้ แต่มันทำให้เรารู้และสามารถจัดการกับอารมณ์ของเราได้ จนเราเลิกหมกมุ่นกับสิ่งหนึ่งและออกมาสู่สิ่งใหม่ได้ อยู่กับปัจจุบันได้จริงๆ จากนั้นก็อยากวาด อยากเขียนมาโดยตลอด จริงๆ ผมเคยหยุดวาดไป 10 ปี เพราะมีรุ่นน้องมาทักว่างานของเราเหมือนงานเด็กอนุบาล แต่เขาดันไม่ได้ขยายความต่อว่ามันเพียว มันน่ารักแบบเด็กอนุบาล”
หลังจากหยุดทำงานศิลปะเพราะขาดความมั่นใจไปเกือบ 10 ปี ป๊อดได้กลับมาสร้างสรรค์งานศิลปะอีกครั้งในปี 2013 ด้วยแอปพลิเคชันวาดภาพในสมาร์ตโฟน และอัพโหลดขึ้นอินสตาแกรมอยู่เรื่อยๆ จนกระทั่งมีคิวเรเตอร์ตาคมอย่างคุณอังกฤษเข้ามาติดตามและชักชวนให้ลองจัดแสดงงาน โดยงาน ‘POD ART’ ที่จัดแสดงใน Yelo House นั้น เป็นบันทึกประจำวันที่ป๊อดวาดเก็บไว้ในช่วงปีที่ผ่านมา ผสมกับงานคอลลาจที่นำเรื่องราวจากสมุดบันทึกของป๊อดในปี 2000 มาปรินต์ลงบนผืนผ้าใบ และวาดทับซ้อนด้วยสีอะคริลิกซึ่งเป็นอารมณ์ความรู้สึก ณ ปัจจุบันขณะ
คอลลาจบางชิ้นยังมีรอยประทับของตัวโน้ต ใบเสร็จตอนซื้อกีตาร์ฮัมมิงเบิร์ดที่นิวยอร์ก ซึ่งได้กลายมาเป็นกีตาร์คู่ใจที่ถ่ายทอดอารมณ์สู่บทเพลงดัง ตาสว่าง และ สิ่งที่ไม่เคยบอก
เมื่อถามต่อถึงการต่อยอดจากศิลปะที่ทำอยู่ในปัจจุบันไปสู่การสร้างสรรค์บทเพลงใหม่ที่แฟนๆ ต่างก็รอคอย นักร้องนำผู้พาวงเข้าสู่ปีที่ 22 ของโมเดิร์นด็อกกล่าวว่า “คอนเสิร์ต 22 ปีโมเดิร์นด็อกที่ผ่านมาเป็นเหมือนฉากจบของนิยายเล่มใหญ่ ดังนั้น ถ้าจะมีนิยายเล่มต่อไปออกมา นักเขียนก็ต้องออกไปใช้ชีวิตใหม่ๆ หาประสบการณ์ใหม่ๆ สักพัก ถ้าเราจะเขียนนิยายเล่มใหม่เราก็ต้องการความแตกต่าง เจ.เค. โรว์ลิงเองก็คงไม่อยากเขียนแฮร์รี่ พอตเตอร์ขึ้นอีกชุดหนึ่งแล้ว”
แม้ตอนนี้ยังไม่มีเพลงใหม่ออกมาให้แฟนๆ ได้ฟังกัน แต่สำหรับใครที่คิดถึงความแอ็บสแตรกต์ที่แฝงอยู่ในท่วงทำนองและเนื้อร้องในแบบฉบับโมเดิร์นด็อก สามารถเข้ามาชมงานศิลปะ POD ART ได้ที่ Yelo House ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 กันยายน 2560
ข้อมูลเพิ่มเติม: www.yelohouse.com
Photo: ศรัณยู นกแก้ว