เมื่อพูดถึงอุตสาหกรรมที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างรายได้มหาศาลให้กับประเทศ แน่นอนว่าหลายๆ คนย่อมจะต้องนึกถึงอุตสาหกรรมการส่งออกเป็นลำดับต้นๆ เป็นแน่ หากรู้กันหรือไม่ว่ามีรางวัลหนึ่งที่มีความสำคัญต่อผู้ประกอบการ และแวดวงอุตสาหกรรมการส่งออกของประเทศไทยเราเป็นอย่างมาก นั่นคือ ‘Prime Minister’s Export Award’ ซึ่งเพิ่งครบรอบ 30 ปีในปีนี้เอง รางวัลดังกล่าวมีส่วนช่วยส่งเสริมให้ผู้ประกอบการประสบความสำเร็จมาแล้วมากมาย มีคุณูปการในการพัฒนาแวดวงธุรกิจส่งออก ตลอดจนช่วยสร้างความยั่งยืนให้เกิดขึ้นกับสังคมไทยได้อย่างไร THE STANDARD ขออาสาพาผู้ประกอบการรุ่นใหม่ และผู้อ่านทุกคนไปทำความรู้จักกับรางวัลอันทรงเกียรติและทรงคุณค่านี้กัน
3 ทศวรรษแห่งความสำเร็จ
ครบรอบ 30 ปีรางวัล ‘Prime Minister’s Export Award’
รางวัลแห่งแรงบันดาลใจและเกียรติยศของผู้ส่งออกไทย
ที่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ริเริ่มจัดขึ้นมาตั้งแต่ พ.ศ. 2535
รางวัล ‘Prime Minister’s Export Award’ หรือ ‘โครงการรางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่น’ จัดขึ้นโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) โดยได้เริ่มต้นจัดขึ้นครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2535 รางวัลนี้ถือเป็นรางวัลสูงสุดของรัฐบาลที่มอบให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่น เพื่อประกาศเกียรติคุณถึงศักยภาพและความทุ่มเทของผู้ประกอบการไทย ซึ่งผลิตสินค้าคุณภาพและบริการที่มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล สามารถประกอบธุรกิจจนประสบความสำเร็จในระดับโลก ช่วยขยายมูลค่าการค้าระหว่างประเทศได้อย่างยั่งยืน
ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี DITP มีความมุ่งมั่นที่จะ
ส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ของไทยมาโดยตลอด
ทั้งนี้ DITP มีความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ให้ได้รับรางวัล PM’s Export Award อันทรงเกียรตินี้ พร้อมผลักดันให้เข้าถึงผู้ประกอบการในทุกระดับและทุกภาคส่วนของประเทศ โดยตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี มีผู้ประกอบการจำนวนมากที่ประสบความสำเร็จ สามารถพัฒนาองค์กรให้ก้าวหน้า จนได้รับรางวัล PM’s Export Award อย่างสม่ำเสมอในหลากหลายประเภทรางวัล ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความตั้งใจที่จะพัฒนาและรักษามาตรฐานการดำเนินธุรกิจ อีกทั้งยังเป็นต้นแบบและแรงบันดาลใจให้กับผู้ส่งออกรายใหม่ๆ ได้ดำเนินรอยตามอีกด้วย นับแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมีผู้ประกอบการได้รับรางวัล PM’s Export Award รวมแล้วถึง 672 บริษัท 787 รางวัล ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นตัวแทนความภาคภูมิใจของคนไทยในการผลิตสินค้าและบริการที่ได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับในตลาดสากล
ครอบคลุมทุกสาขารางวัล
รางวัล Prime Minister’s Export Award
อยู่เคียงข้างสังคมไทยมาโดยตลอด
สำหรับประโยชน์ที่ผู้ได้รับรางวัลจะได้รับ นอกจากจะได้รับโล่และเกียรติบัตรสัญลักษณ์แห่งความภาคภูมิใจจากนายกรัฐมนตรีแล้ว ยังจะได้รับสิทธิเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาความรู้ หรือร่วมจัดงานแสดงสินค้ากับกรมส่งเสริมการส่งออกทั้งในและต่างประเทศ ได้รับการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ และสามารถใช้ตราสัญลักษณ์ PM Award ในการส่งเสริมการขาย และเพื่อเป็นการสนับสนุนผู้ประกอบการที่โดดเด่นในแต่ละด้านให้ครอบคลุมที่สุด รางวัล PM’s Export Award จึงได้แบ่งออกเป็น 7 ประเภทสาขา และบางรางวัลก็ยังมีสาขาแยกย่อยอีก ดังนี้
- รางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกยอดเยี่ยม (Best Exporter)
- รางวัลสินค้านวัตกรรมยอดเยี่ยม (Best Innovation)
- รางวัลแบรนด์ไทยยอดเยี่ยม (Best Thai Brand)
- รางวัลสินค้าไทยที่มีการออกแบบยอดเยี่ยม (Best Design ผ่านรางวัล Design Excellence Award: DEmark)
- รางวัลสินค้าธุรกิจบริการยอดเยี่ยม (Best Service Enterprise Award) ซึ่งแบ่งเป็น 4 สาขาย่อย ได้แก่
- สาขาโรงพยาบาล/ศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง/คลินิกเฉพาะทาง (Health & Wellness)
- สาขาดิจิทัลคอนเทนต์และซอฟต์แวร์ (Digital Content & Software)
- สาขา Trade Logistics (ผ่านรางวัล Excellent Logistics Management Award: ELMA)
- สาขาธุรกิจสิ่งพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ (Printing)
- รางวัลสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณท์ยอดเยี่ยม (Best OTOP)
- รางวัลสินค้าฮาลาลยอดเยี่ยม (Best Halal)
เติบโต มุ่งมั่น ก้าวหน้าสู่อนาคต
โล่และเกียรติบัตรสัญลักษณ์แห่งความภาคภูมิใจจากนายกรัฐมนตรีในอดีต
PM’s Export Award เป็นหนึ่งในกลไกสำคัญที่ช่วยส่งเสริมผู้ประกอบการ
เสริมความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมการส่งออกของไทยมากว่า 3 ทศวรรษ
ตลอดระยะเวลา 30 ปีอันยาวนาน ถ้าจะพูดไปแล้วก็เปรียบได้กับชีวิตของคนเรา ซึ่งน่าจะเป็นช่วงเวลาของหนุ่มสาวที่กำลังเติบโต มุ่งมั่น พร้อมที่จะก้าวหน้าไปสู่อนาคต เช่นเดียวกับ PM’s Export Award ประจำปี 2021 ซึ่งในปีล่าสุดนี้นอกจากจะจัดขึ้นภายใต้แนวคิด ‘Succeed Beyond Success ก้าวสำคัญสู่ความสำเร็จที่มากกว่า’ เพื่อให้สอดรับกับความเปลี่ยนแปลงของโลก จึงสะท้อนผ่านผู้ประกอบการที่มีการสร้างมูลค่าเพิ่ม และสอดคล้องตามกระแสโลก อาทิ การดำเนินธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและการออกแบบ การดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงการพัฒนาอย่างยั่งยืนตาม SDGs (Sustainable Development Goals) การดำเนินธุรกิจตามแนวคิด BCG Model (Bio-Circular-Green Economy) ซึ่งจะถูกนำมาใช้เป็นส่วนสำคัญในเกณฑ์การตัดสิน ทั้งยังได้มีการเพิ่มรางวัลใหม่เข้ามาเสริมอีกด้วย ซึ่งได้แก่ ‘รางวัลผู้ประกอบการนวัตกรรมดาวเด่น’ (Aspiring Innovation) เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่สามารถนำนวัตกรรมสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ธุรกิจ แม้จะยังไม่มีผลประกอบการส่งออก แต่ธุรกิจมีศักยภาพสูงในการดำเนินธุรกิจระหว่างประเทศ และยังเพิ่ม ‘รางวัล Emerging Brand ในสาขารางวัล Best Thai Brand’ เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ๆ ที่มีความสามารถในการพัฒนาแบรนด์ต่อยอดไปสู่เวทีการค้าระหว่างประเทศได้อย่างโดดเด่น
รางวัลอันยิ่งใหญ่
ก้าวสำคัญและเรื่องราวของผู้ประกอบการที่หลากหลาย
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา 3 ทศวรรษ นอกจากรางวัล PM’s Export Award จะเป็นก้าวย่างสำคัญที่ทำให้ผู้ประกอบการหลากหลายได้เป็นที่รู้จัก และประสบความสำเร็จอย่างมั่นคงแล้ว หากพิจารณาให้ลึกลงไปกว่านั้น คือเรื่องราวความสำเร็จของผู้ประกอบการในแต่ละปี ที่ได้สร้างรายได้ให้กับประเทศไทยอย่างมหาศาล นับตั้งแต่ พ.ศ. 2535-2564 รางวัลนี้ได้สร้างผู้ประกอบการยอดเยี่ยมใน 7 สาขารวมแล้วกว่า 787 รางวัล จาก 672 บริษัท สร้างผู้ประกอบการแบรนด์ไทยระดับโลก แจ้งเกิดผู้ประกอบการที่สร้างนวัตกรรมผลักดันผู้ประกอบการ SMEs & OTOP คุณภาพระดับส่งออกพร้อมทั้งมอบโอกาสให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดใหญ่ได้ต่อยอดเพิ่มมูลค่าการส่งออก และสร้างรายได้กลับเข้าประเทศเป็นจำนวนมาก ซึ่งหากเรานับเฉพาะจำนวนสุดยอดผู้ประกอบการด้านการส่งออก หรือสาขา Best Exporter ตลอด 30 ปี จะพบว่ามีผู้ที่ได้รับรางวัลนี้มากถึง 122 รางวัลเลยทีเดียว และหากลองย้อนดูข้อมูลตลอด 5 ปีที่ผ่านมา จะพบว่ารางวัล Best Exporter มีสุดยอดผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัลในแต่ละปีเฉลี่ย 5-9 รางวัล ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นได้สร้างมูลค่าส่งออกและรายได้ให้กับประเทศสูงถึงกว่า 6 หมื่นล้านบาท!!
นอกจากนี้สุดยอดผู้ประกอบการล่าสุดที่ได้รับรางวัลในปี 2564 จากทุกสาขาทั้ง 42 รางวัล ยังยืนยันถึงการมีส่วนช่วยสร้างรายได้ให้กับประเทศในปี 2020 ได้ถึง 19,910 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 0.28 ของมูลค่าการส่งออกโดยรวม และล่าสุดนับจากเดือนมกราคมถึงกรกฎาคมในปีนี้ ก็มีส่วนในการสร้างรายได้เข้าประเทศเพิ่มขึ้นแล้วกว่า 11,377 ล้านบาท แถมยังทำให้เกิดการจ้างงานในประเทศไม่ต่ำกว่า 14,639 คน
ทั้งหมดดังที่กล่าวมาจึงชัดเจนว่า PM’s Export Award ไม่ได้เป็นเพียงแค่การมอบรางวัลธรรมดาเท่านั้น แต่ยังเป็นกลไกที่ช่วยส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยมีโอกาสพัฒนาขีดความสามารถทางการแข่งขัน พร้อมทั้งเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ๆ ได้ดำเนินรอยตามผู้ประกอบการรุ่นพี่ที่ประสบความสำเร็จ ช่วยกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ธุรกิจส่งออกของประเทศให้ดำเนินไปอย่างยั่งยืน ซึ่งความสำเร็จนี้ตรงกับแนวคิดในปีนี้ที่ว่า ‘Succeed Beyond Success ก้าวสำคัญสู่ความสำเร็จที่มากกว่า’ อย่างแท้จริง
ไม่ว่า 30 ปีที่ผ่านมาหรือจะอีก 30 ปีข้างหน้า เศรษฐกิจและการค้าโลกจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร THE STADARD มั่นใจว่ารางวัล PM’s Export Award ก็จะยังคงเป็นรางวัลแห่งความสำเร็จ และเป็นแรงบันดาลใจ อันจะนำมาซึ่งความภาคภูมิใจระดับชาติ ช่วยสร้างขวัญกำลังใจ และสร้างรากฐานอันแข็งแกร่งให้ผู้ประกอบการสามารถร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย รับมือกับพลวัตทางการค้าโลกที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืน
ภาพประกอบ: ธิดามาศ เขียวเหลือ
ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ และผู้อ่านที่สนใจเกี่ยวกับ PM’s Export Award ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง