×

เปิดผลสำรวจเสียงสะท้อนคนไทยกับวิกฤตฝุ่น PM2.5 ชี้รัฐต้องแก้ที่ต้นเหตุ-หยุดมาตรการชั่วคราว พร้อมจี้ควบคุมราคาอุปกรณ์ป้องกันที่พุ่งสูงขึ้น

21.02.2025
  • LOADING...
pm25-survey-thailand

บริษัท ดาต้าเซ็ต จำกัด เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของผู้ใช้โซเชียลมีเดียเกี่ยวกับปัญหาฝุ่น PM2.5 ในช่วงเดือนมกราคม 2568 โดยใช้เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูล DXT360 ซึ่งครอบคลุมทั้งโซเชียลมีเดียและสื่อดั้งเดิม พบว่าประชาชนต้องการเห็นการแก้ปัญหาที่เป็นรูปธรรมมากกว่าการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า โดยมีการกล่าวถึงรัฐบาลมากที่สุดถึง 35% เรียกร้องให้เร่งแก้ไขปัญหาและบังคับใช้มาตรการจัดการมลพิษอย่าง ‘เด็ดขาด’

 

ผลสำรวจสะท้อนให้เห็นว่าหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึง 25% ในประเด็นที่ดูเหมือนจะทำได้เพียงแค่แจ้งเตือนค่าฝุ่นและให้คำแนะนำในการป้องกันตัว แต่ขาดมาตรการเชิงรุกในการป้องกันและควบคุมแหล่งกำเนิดมลพิษ 

 

ขณะที่หน่วยงานด้านการขนส่งถูกพูดถึง 15% โดยเฉพาะนโยบายเดินทางฟรีที่ยังมีข้อจำกัดด้านเส้นทางและการให้บริการ ส่วนกรุงเทพฯ และหน่วยงานท้องถิ่นถูกกล่าวถึง 10% ในแง่ของการนำนโยบายไปปรับใช้ที่ยังเป็นการแก้ปัญหา ‘ปลายเหตุ’

 

มาตรการแก้ปัญหาฝุ่นของภาครัฐถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดยเฉพาะนโยบายรถไฟฟ้าฟรีที่ใช้งบประมาณสูง แต่แก้ปัญหาได้เพียงชั่วคราว เนื่องจากเส้นทางยังไม่ครอบคลุม และรถเมล์พลังงานไฟฟ้าหลายสายไม่ได้เข้าร่วมโครงการ

 

ส่วนมาตรการ Work from Home ก็มีข้อจำกัด เพราะไม่สามารถปรับใช้ได้กับทุกอาชีพ อีกทั้งเป็นเพียงการขอความร่วมมือไม่ใช่กฎหมายบังคับใช้ ขณะที่การเรียนออนไลน์กลับสร้าง ‘ภาระหนัก’ ให้ทั้งผู้ปกครองและโรงเรียน โดยเฉพาะปัญหาความพร้อมของอุปกรณ์และอินเทอร์เน็ต

 


 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: 

 


 

ที่น่าสนใจคือผู้ใช้โซเชียลมีเดียหลายคนหันไปพูดถึงโมเดลการแก้ปัญหาฝุ่นของปักกิ่งและโซล ที่สามารถควบคุมมลพิษทางอากาศได้ด้วยการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ทั้งการสั่งปิดโรงงานที่ปล่อยมลพิษเกินมาตรฐานและการจำกัดการใช้รถส่วนตัว แต่หลายคนมองว่าอาจเป็นไปได้ยากในบริบทของไทย เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านการบังคับใช้กฎหมายและผลกระทบต่อภาคธุรกิจ

 

ฝุ่น PM2.5 สร้างผลกระทบในวงกว้าง โดยเฉพาะด้านสุขภาพที่ประชาชนต่างประสบปัญหาระบบทางเดินหายใจ ระคายเคืองตาและจมูก รวมถึงเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคปอดในระยะยาว โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงอย่างเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคประจำตัว นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อสัตว์เลี้ยงที่มีอาการปอดอักเสบเช่นเดียวกัน

 

ท่ามกลางวิกฤตฝุ่น ‘เครื่องฟอกอากาศ’ กลายเป็นไอเท็มยอดฮิตที่ถูกพูดถึงมากที่สุด โดยเฉพาะในระดับราคาถูกถึงปานกลาง จนเกิดภาวะสินค้าขาดตลาด ผู้ใช้โซเชียลมีเดียส่วนใหญ่มองว่าเป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพในระยะยาว พร้อมแชร์ประสบการณ์การใช้งานที่ช่วยให้หายใจสะดวกขึ้นและลดอาการภูมิแพ้ เช่นเดียวกับหน้ากากอนามัย KF94 และ N95 ที่ได้รับความนิยมสูงด้วยประสิทธิภาพในการกรองฝุ่น

 

อย่างไรก็ตาม ราคาที่พุ่งสูงขึ้นของอุปกรณ์ป้องกันฝุ่นกลับสร้างความกังวลให้ผู้บริโภค เนื่องจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว นำไปสู่เสียงเรียกร้องให้ภาครัฐเข้ามาควบคุมราคาสินค้าจำเป็นในช่วงวิกฤต พร้อมกับข้อเรียกร้องให้มีการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุอย่างยั่งยืน ทั้งการลดการเผาในภาคเกษตร การพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะ และการบังคับใช้กฎหมายควบคุมมลพิษอย่างจริงจัง

 

สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อสุขภาพเท่านั้น แต่ยังกระทบทั้งด้านเศรษฐกิจ การดำเนินชีวิต และสังคม ทำให้ประชาชนต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ทั้งค่ารักษาพยาบาล อุปกรณ์ป้องกัน และการสูญเสียรายได้จากการหยุดงานเพื่อรักษาตัว ชี้ให้เห็นว่าถึงเวลาแล้วที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันแก้ปัญหาที่ต้นเหตุอย่างจริงจัง ไม่ใช่แค่ ‘ตามแก้’ ปลายเหตุที่เพียงแต่ผลักภาระให้ประชาชนต้องแบกรับกันเองเหมือนที่ผ่านมา

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising