วันนี้ (22 พฤศจิกายน) กรมควบคุมมลพิษ รายงานสถานการณ์และคุณภาพอากาศในเขตกรุงเทพมหานคร (กทม.) และปริมณฑล พบว่า หลายพื้นที่เริ่มมีค่าฝุ่น PM2.5 เพิ่มมากขึ้นตลอด 2-3 วันที่ผ่านมา แต่เป็นการเพิ่มด้วยปริมาณที่ไม่สูงเกินเกณฑ์ปานกลาง (ไม่เกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.)) โดยพื้นที่ที่ตรวจพบค่าฝุ่นสูงที่สุดคือ ริมถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 เขตหนองแขม มีปริมาณฝุ่น PM2.5 อยู่ที่ 50 มคก./ลบ.ม.
ส่วน 5 พื้นที่ตรวจพบค่าฝุ่นสูงมีดังนี้
- ริมถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 เขตหนองแขม มีค่าฝุ่น 50 มคก./ลบ.ม.
- ริมถนนพุทธมณฑล 1 เขตตลิ่งชัน มีค่าฝุ่น 44 มคก./ลบ.ม.
- ริมถนนคลองทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา มีค่าฝุ่น 44 มคก./ลบ.ม.
- ริมถนนเพชรเกษม เขตภาษีเจริญ มีค่าฝุ่น 43 มคก./ลบ.ม.
- ริมถนนกาญจนาภิเษก เขตบางขุนเทียน มีค่าฝุ่น 40 มคก./ลบ.ม.
ขณะเดียวกัน การรายงานจาก AirVisual จัดอันดับเมืองที่มีมลพิษจาก PM2.5 มากที่สุดในโลกแบบเรียลไทม์ (เมื่อเวลา 09.30 น.) พบ 5 ลำดับแรก ประกอบด้วย
- เมืองธากา, บังกลาเทศ มีค่าฝุ่น 221.1 มคก./ลบ.ม.
- เมืองลาฮอร์, ปากีสถาน มีค่าฝุ่น 209.6 มคก./ลบ.ม.
- เมืองโกลกาตา, อินเดีย มีค่าฝุ่น 202.5 มคก./ลบ.ม.
- เมืองเบลเกรด, เซอร์เบีย มีค่าฝุ่น 171.5 มคก./ลบ.ม.
- เมืองนิวเดลี, อินเดีย มีค่าฝุ่น 169 มคก./ลบ.ม.
ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ของประเทศไทย อยู่ในลำดับที่ 21 มีค่าฝุ่น PM2.5 แบบเฉลี่ยที่ 37.1 มคก./ลบ.ม. อยู่ในเกณฑ์มีผลกระทบต่อผู้ป่วยหรือทำให้ร่างกายอ่อนแอ
อ้างอิง: