วันนี้ (10 เมษายน) สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (หมอชิต 2) เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วย สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, มนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม, สุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และข้าราชการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ตรวจสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (หมอชิต 2) ก่อนที่ประชาชนจะเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์
เมื่อนายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึง มีประชาชนผู้โดยสารที่รอขึ้นรถกลับภูมิลำเนามารอต้อนรับ และได้ฟังบรรยายสรุปแผนการปรับปรุงหมอชิตจาก อรรถวิท รักจำรูญ กรรมการรักษาการแทนกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เดินตรวจบริเวณห้องน้ำทั้งแบบพรีเมียมและแบบธรรมดา ศูนย์อาหาร ชานชาลาโดยสาร รวมถึงจุดบริการแท็กซี่และรถเมล์
ทั้งนี้ ภายหลังการตรวจห้องน้ำ ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงความแตกต่างระหว่างห้องน้ำปกติกับห้องน้ำแบบพรีเมียม นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ห้องน้ำพรีเมียมมีแอร์ แต่ตนเองเน้นเรื่องความสะอาดมากกว่า สะอาดได้ก็ดี กลิ่นก็ไม่มี เพราะมีคนทำความสะอาด และห้องน้ำพรีเมียมราคา 10 บาท ถือว่าถูกมาก ดีมาก เหมาะสม และนักท่องเที่ยวต่างชาติชอบมาก ถือเป็นทางเลือกที่ดี
ระหว่างนั้นนายกรัฐมนตรีแนะนำให้ทำป้ายโฆษณาดิจิทัล (Electronic Billboard) เพื่อการโฆษณาและสร้างรายได้ให้แก่ บขส. ซึ่งสุรพงษ์บอกว่า เรามีเวลาน้อย เพิ่งเข้ามาได้ 7 เดือน นายกรัฐมนตรีจึงหันมาย้ำกับผู้สื่อข่าวว่า เขาเพิ่งมาได้ 7 เดือน ทำได้แค่นี้ก็ดีแล้ว
จากนั้นนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า วันนี้ตนเองเดินทางมาตรวจที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (หมอชิต 2) เพราะอยากอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการซื้อตั๋วออนไลน์ ซึ่งจากที่ตนเองได้พูดคุยกับประชาชนในวันนี้พบว่าก็แฮปปี้ดี และการเข้าไปตรวจห้องน้ำ หรือแม้แต่ศูนย์อาหาร ก็สะอาด และราคาก็อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
เศรษฐายังได้ประเมินคะแนนสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (หมอชิต 2) ว่า ในฐานะผู้ดูแลให้คะแนน 8 เต็ม 10 คะแนน แต่ถามตนเองไม่ได้ ต้องไปถามผู้ที่ใช้บริการ เราทุกคนทราบกันดีว่าการที่ตนเองมาลงพื้นที่ในวันนี้มีการเตรียมการเป็นพิเศษ แต่ตนเองคิดว่าจะต้องมาครั้งถัดไป ควรมาแบบที่ไม่มีการแจ้งล่วงหน้าจะเป็นการดีเสียกว่า ซึ่งสุรพงษ์ยืนยันว่า การมาครั้งต่อไปก็จะเป็นแบบนี้แน่นอน นายกฯ จึงตอบว่า ให้เอาคำพูดเป็นนาย การที่ตนเองจะมาหรือไม่มา คุณภาพของการให้บริการและความสะอาดควรอยู่ในเกณฑ์ที่ดีตลอด
สำหรับสิ่งที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (หมอชิต 2) ยังต้องปรับปรุงนั้น เศรษฐากล่าวว่า การหารายได้พิเศษ เช่น การติดป้ายโฆษณาดิจิทัล (Electronic Billboard) ที่มีรายได้เดือนละ 3 ล้านบาท ระหว่างรอให้ผู้โดยสารกลับมาใช้บริการ บขส. จำนวนมากเหมือนก่อนการแพร่ระบาดของโควิด ซึ่งรัฐมนตรีก็รับปากว่าอีก 3-4 เดือนมีอย่างแน่นอน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรีจะต้องเป็นการลงพื้นที่โดยไม่บอกล่วงหน้าเหมือนการลงพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คงจะต้องเป็นอย่างนั้น และไม่บอกว่ากี่เดือน “เดี๋ยวพวกคุณตามมา เดี๋ยวท่านรองฯ ก็จัดฉากมารับผม แม้จะจัดฉาก แต่ก็เป็นการจัดฉากได้ดีมาก” ซึ่งรัฐมนตรีช่วยว่าการคมนาคมก็ยืนยันว่าไม่ได้จัดฉาก ทุกวันก็เป็นอย่างนี้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า นายกรัฐมนตรีได้ตรวจพื้นที่ที่พรรคฝ่ายค้านได้มีการสะท้อนปัญหาหมอชิตหรือไม่ เศรษฐากล่าวว่า ตนเองไม่ได้ฟังว่าพูดว่าอะไร แต่ดูจากวันนี้ก็ดีมากอยู่แล้ว มีการเพิ่มที่นั่ง ส่วนพื้นที่การค้าก็รวมกันเป็น 2 จุด มีโทรทัศน์ให้ประชาชนได้รับชมระหว่างนั่งรอรถ เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ต้องพัฒนากันต่อไป