วันนี้ (3 มีนาคม) แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งวันนี้ใช้เวลาประชุมไม่ถึง 1 ชั่วโมง และมีมติ ครม. ที่น่าสนใจ คือ ครม. อนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ เรื่องเสนอ โครงการนำเรือประมงออกนอกระบบ เพื่อการจัดการทรัพยากรทางทะเลที่ยั่งยืนอนุมัติงบกลางปี 2568 จำนวน 1,622.60 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการในการชดเชยเรือประมงจำนวน 923 ลำ จ่ายเงินเยียวยาให้แก่ผู้ประสงค์จะเลิกอาชีพทำการประมง และเรือประมงพาณิชย์ที่เหลืออยู่ จะสามารถจัดการประมงได้ตลอดทั้งปี
ที่ประชุมยังอนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอรับเงินสนับสนุนงบประมาณงบกลาง โครงการจัดหาชุดเครื่องผลิตสานฝนหลวงสูตร 3 น้ำแข็งแห้ง ประจำปีงบประมาณ 2568 จำนวน 200 ล้านบาท ในศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวง 4 ศูนย์ ได้แก่ จังหวัดตาก พิษณุโลก บุรีรัมย์ และขอนแก่น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติการฝนหลวง ในการป้องกันแก้ไขปัญหาภัยแล้ง และการดัดแปลงสภาพอากาศ ในการแก้ไขปัญหาเรื่องฝุ่นละอองขนาดเล็ก
ส่วนกรณีที่เกษตรกรฝากรัฐบาลและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดูแลราคาพืชผลการเกษตร นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เรื่องของราคาเกษตร ได้ดูเรื่องนี้อย่างจริงจัง ล่าสุดราคาหอมแดงขึ้นมาแล้ว และยังมีพืชผลหลายตัวที่ราคาสูงขึ้น แต่หากมีสินค้าตัวไหนราคาตก ก็ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดูเรื่องนี้ ขออย่ากังวล เพราะ สส. ในพรรคก็คอยย้ำเตือนเรื่องนี้ตลอด โดยเฉพาะราคาพืชผลการเกษตร ไม่ทิ้งไปไหนแน่นอน จะพยายามดูเรื่องนี้ให้ดีขึ้น รวมถึงดูเรื่องปัญหาพ่อคนกลางและทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องด้วย
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าไปพบทีมที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีที่บ้านที่พิษณุโลกเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ทักษิณได้มีการพูดคุยกับทีมที่ปรึกษาซึ่งเป็นผู้มีประสบการณ์ทุกด้าน โดยได้มีการพูดคุยถึงประเด็นต่างๆ ของสหรัฐอเมริกา หลัง โดนัลด์ ทรัมป์ รับตำแหน่งประธานาธิบดี
ส่วนการเตรียมพร้อมรับมืออภิปรายไม่ไว้วางใจที่นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าจะมีการ ตั้งทีมองครักษ์นั้นยังไม่มีรายละเอียด แต่ก็ได้รับข้อมูลมามากพอสมควร เนื่องจากตนเองไม่เคยโดนอภิปรายมาก่อน แต่ยืนยันว่าต้องมีการชี้แจงข้อเท็จจริง และเน้นย้ำในเรื่องของข้อกฎหมาย
ส่วนจะเป็นการวัด KPI ของแต่ละกระทรวงเลยหรือไม่ นายกรัฐมนตรีระบุว่า จากการพูดคุยกัน เชื่อว่าทุกกระทรวงพร้อมที่จะชี้แจงอยู่แล้ว ซึ่งในเรื่องของ KPI ถ้าจะเห็นการทำภายในกระทรวงว่ามีงานออกมาหรือไม่
เมื่อถามถึงการเตรียมข้อมูลอะไรเป็นพิเศษหรือไม่นั้น แพทองธารระบุว่า ตอนนี้คงยังบอกไม่ได้ แต่ได้เตรียมเรื่องข้อมูลตัวเลขและข้อมูลที่สามารถจับต้องได้ก่อน
เมื่อถามว่า จะเป็นเวทีที่พิสูจน์ความเป็นภาวะผู้นำของนายกรัฐมนตรีเลยหรือไม่ เพราะฝ่ายค้านมีการตั้งญัตติถึงความเป็นภาวะผู้นำและโพลที่ออกมาประชาชนก็ยังไม่เชื่อมั่น แพทองธารกล่าวว่า ก็ต้องมีการชี้แจง ส่วนเรื่องภาวะผู้นำต้องให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน ซึ่งไม่อยากจะไปชี้นิ้วว่าใครเป็นผู้นำหรือไม่เป็นผู้นำ หรือการจะว่าใครต้องเป็นผู้นำให้ได้ก่อนแล้วค่อยว่าคนอื่น ซึ่งตนก็ทำเต็มที่ เตรียมข้อมูลจริงไปเล่าให้ประชาชนฟัง ซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกต้อง
ขณะที่โพลก็พร้อมรับฟังทุกสำนัก เพราะถือว่าได้เก็บความคิดเห็นของประชาชนบางส่วนมาแล้วและพร้อมปรับตัว และเชื่อว่าทุกกระทรวงก็พร้อมจะรับฟังความคิดเห็นและนำไปปรับปรุงในการทำงานเช่นเดียวกัน
แพทองธารย้ำว่า เวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นเวทีที่ดี ทำให้ประชาชนได้เข้าใจถึงข้อมูลที่แท้จริง และเข้าใจความเป็นนายกฯ Gen Y ซึ่งเรายังไม่เคยมีนายกฯ Gen Y เพราะฉะนั้นจะได้เข้าใจซึ่งกันและกัน