วันนี้ (17 ธันวาคม) แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย ปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรส, อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย, อรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่น้ำท่วมจังหวัดนครศรีธรรมราชและสุราษฎร์ธานี
เวลา 14.00 น. ที่ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยและสั่งการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ภาคใต้ ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดภาคใต้ 5 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดนครศรีธรรมราช, สุราษฎร์ธานี, ชุมพร, พัทลุง และนราธิวาส
อนุทินกล่าวรายงานว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่นายกรัฐมนตรีกรุณาลงมาเยี่ยมเยียนพวกเราในสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ วันนี้นายกรัฐมนตรีเรียกประชุมเป็นวาระเร่งด่วน เพื่อให้เกิดความเข้าใจสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ทั้งหมด
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า วันนี้ดีใจมากที่มีโอกาสได้มาจังหวัดนครศรีธรรมราช และทราบว่าผู้ว่าราชการทุกจังหวัดจะต้องอยู่ในพื้นที่ของตัวเอง ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องดูแลพื้นที่ให้ดี ที่ผ่านมารัฐบาลติดตามสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิดและได้รับรายงานโดยตรงจากหน่วยงานที่รับผิดชอบทุกหน่วย
ฉะนั้นถือว่าทุกคนสามารถจัดการกับเหตุการณ์น้ำท่วมภาคใต้ได้อย่างรวดเร็ว และได้รับรายงานว่าไม่เกินวันที่ 20 ธันวาคม น้ำน่าจะแห้งทั้งหมด ทั้งนี้ ได้ย้ำให้ดูแลในเรื่องของปัจจัยสี่ในการช่วยเหลือประชาชนให้เพียงพอ และให้ความสำคัญกับชีวิตของประชาชนเป็นสิ่งแรก
เยียวยาแล้ว 99% ‘อนุทิน’ ชมนายกฯ แอ็กชันเร็ว
“ขอให้กำลังใจทุกคน เหตุการณ์ใกล้จะผ่านไปแล้ว และการเยียวยาถึงมือพี่น้องประชาชนแล้ว 80 กว่าเปอร์เซ็นต์ ถือว่าเร็วและดีมากๆ ตอนที่เราอนุมัติงบเยียวยาในภาคเหนือ ที่ขณะนี้เยียวยาไปได้แล้ว 99 เปอร์เซ็นต์ เหลืออีก 1 เปอร์เซ็นต์ที่ยังต้องยืนยันตัวตน” นายกรัฐมนตรีกล่าว
ด้านอนุทินยังกล่าวอีกว่า ตั้งแต่มีสถานการณ์น้ำท่วมที่ภาคเหนือจนถึงภาคใต้ได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะการช่วยเหลือประชาชน นายกรัฐมนตรีได้อนุมัติงบประมาณฉุกเฉินในการช่วยเหลือประชาชนด้วยความรวดเร็ว ซึ่งถือเป็นขวัญและกำลังใจให้กับผู้ปฏิบัติงาน ตนคิดว่าการที่นายกรัฐมนตรีเทกแอ็กชัน ไม่ได้ชะลอเรื่องการช่วยเหลือประชาชน โดยติดตามสถานการณ์ระหว่างเยือนมาเลเซีย ตนในฐานะผู้บัญชาการสถานการณ์ขอขอบคุณนายกรัฐมนตรี
กำชับเตรียมพร้อม ‘น้ำ-ไฟ’ รับคนกลับบ้าน
จากนั้นนายกรัฐมนตรีกล่าวสั่งการว่า เข้าใจประชาชน เวลาที่ต้องรอมันยาวนาน รัฐบาลจึงเร่ง และนี่เป็นสิ่งที่อย่างน้อยรัฐบาลช่วยสนับสนุน เพราะเมื่อเกิดสถานการณ์แล้ว มีการอนุมัติงบลงไปก็เกิดความอุ่นใจ และไม่ต้องไปรอลุ้นว่าเมื่อได้รับผลกระทบแล้วจะได้รับเงินเยียวยาเท่าไร และเน้นย้ำให้ดูแลทั้งเรื่องประปาและไฟฟ้าแก่ประชาชนอย่างเต็มที่ ให้รู้สึกสบายกายและสบายใจ เพราะการที่เขาย้ายออกมาจากบ้านตัวเองก็มีความลำบากอยู่แล้ว
จึงขอให้ทุกหน่วยงานช่วยกันดูแลเรื่องนี้อย่างดี เมื่อเหตุการณ์บรรเทาลงแล้วก็จะได้กลับบ้านและมีแรงในการซ่อมแซมบ้าน หากติดขัดรองนายกรัฐมนตรีที่อยู่หน้างานสามารถประสานงานกับทุกภาคส่วนในพื้นที่ได้ ขาดเหลืออะไรก็ขอให้บอกมา และเมื่อน้ำไปแล้วทุกอย่างจะได้กลับมาเป็นปกติโดยเร็ว ขอให้วิกฤตนี้ผ่านไปโดยเร็วที่สุด
นั่งเรือลุยน้ำแจกถุงยังชีพ
จากนั้นที่บริเวณซอยพัฒนาการคูขวาง 10 (ถนนท่าโพธิ์) อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัย ลงเรือท้องแบนไปมอบถุงยังชีพและแพมเพิร์สสำหรับเด็กเล็กให้กับประชาชนที่ติดอยู่ในชุมชนท่าโพธิ์กว่า 3,000 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงหนึ่งที่นายกรัฐมนตรีนั่งเรือท้องแบนแจกถุงยังชีพ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ขอให้กำลังใจประชาชน ยืนยันว่ารัฐบาลช่วยเหลือทุกทางเต็มที่ รองผู้ว่าฯ บอกว่าถ้าฝนไม่ตกเพิ่ม พรุ่งนี้ก็ผันน้ำหมดแล้ว ซึ่งชาวบ้านบอกว่าดีใจที่นายกรัฐมนตรีมาถึงหน้าบ้าน และขอให้นายกสู้ๆ ไปกับพวกเรา
เงินเยียวยามาเร็วแน่นอน
ต่อมานายกรัฐมนตรีกล่าวกับประชาชนว่า วันนี้เป็นตัวแทนของคณะรัฐมนตรี (ครม.) มาให้กำลังใจพี่น้องทุกคน ขอบคุณประชาชนสำหรับความอดทน รอยยิ้มของทุกคน และการต้อนรับที่อบอุ่น อย่าลืมไปลงชื่อและลงทะเบียนที่เทศบาลเพื่อรับเงินเยียวยา 9,000 บาท แม้ปีนี้น้ำจะท่วมเยอะหน่อย แต่แน่นอนว่าเงินเยียวยามาเร็วแน่นอน ขอให้มียิ้มที่สดใสแบบนี้ตลอดไป
