วันนี้ (20 พฤศจิกายน) ที่กระทรวงการคลัง เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการช่วย 226 คน จากเมืองเล่าก์ก่าย ประเทศเมียนมา ว่าได้รับรายงานจากกระทรวงการต่างประเทศ ขณะนี้ได้ช่วยเหลือออกมาแล้ว ซึ่งในนั้นมีผู้กระทำความผิดที่อยู่ในกระบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ด้วย แต่ไม่แน่ใจว่ามี 3 คนหรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในจำนวนนี้ต้องมีการแยกระหว่างผู้ที่ตกเป็นเหยื่อกับผู้ที่กระทำผิดด้วยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า แน่นอนครับ ต้องเข้าสู่กระบวนการสอบสวนก่อน ซึ่งในส่วนของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (ดีอีเอส) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ต้องทำงานร่วมกัน
เมื่อถามว่า เรื่องนี้จะต้องประสานไปยังทางการจีนและเมียนมาในการปราบปรามหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ขอให้ดำเนินการตรงนี้ก่อน เอาคนกลับมาก่อนดีกว่า เพื่อเป็นการตั้งต้นในการสืบสวนต่อไป บางทีต้นตออาจอยู่ในไทยก็ได้ ขอดูและพูดคุย สืบสวนก่อน อย่าเพิ่งกระจายไปที่ต่างประเทศ
คนไทยถูกกักตัวจากสถานการณ์สู้รบ
ก่อนหน้านี้สื่อของเมียนมารายงานเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า เกิดการปะทะระหว่างกองกำลังของรัฐบาลทหารเมียนมาและกองกำลังติดอาวุธชนกลุ่มน้อยในรัฐฉาน ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมียนมา ทำให้มีชาวต่างชาติประมาณ 500 คน รวมทั้งคนไทยเกือบ 200 คนถูกกักตัวอยู่ภายในเมืองเล่าก์ก่าย (Laukkai) โดยรายงานจาก https://www.irrawaddy.com/ ของเมียนมาระบุ มีผู้ถูกกักตัวหลายชาติ เช่น เนปาล เอธิโอเปีย สปป.ลาว และในจำนวนนี้มีคนไทย 189 คน
เหยื่อ vs. แก็งคอลเซ็นเตอร์
สำหรับเล่าก์ก่ายเป็นเมืองทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมียนมา อยู่ภายในเขตปกครองพิเศษโกก้างใกล้กับชายแดนจีน และได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองแห่งการต้มตุ๋น (Scam Town) โดยภายในเมืองมีสถานประกอบการ ทั้งสถานบันเทิง โรงแรม และที่ทำธุรกิจผิดกฎหมายหลายประเภท ทั้งคริปโตเคอร์เรนซี หุ้น คอลเซ็นเตอร์ และเว็บพนัน ที่ดึงดูดให้แรงงานไทยเข้าไปทำงาน
คนไทยจำนวนหนึ่งที่อยู่ในจังหวัดภาคเหนือถูกเพื่อนหลอกให้ไปทำงานที่เมืองเล่าก์ก่าย โดยอ้างจะได้รับค่าตอบแทนสูง ลักษณะงานเป็นการตอบแชต หลังจากตกลงที่จะไปทำงานจะมีนายทุนเป็นผู้ออกค่าตั๋วเครื่องบินรวมถึงพาสปอร์ตให้ จากนั้นจะมีนายหน้ามารับเดินทางไปที่เล่าก์ก่าย
เมื่อไปถึงพบว่าไม่ได้ทำงานอย่างที่ตกลงกันไว้ แต่จะมีคนส่งสคริปต์ให้ท่องเพื่อมาต้มตุ๋นคนไทย ซึ่งมีขบวนการในการสอน มีล่ามแปล และมีคนจีนอยู่ในนั้น หากใครไม่ทำงานดังกล่าวจะถูกกักขังและทำร้ายร่างกาย งดอาหาร หนักสุดคือเสียชีวิต
ชะตากรรมคนไทยในอิสราเอล
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่สื่ออิสราเอลโชว์ภาพวงจรปิดตัวประกัน ซึ่งอาจเป็นคนไทย ถูกฮามาสนำตัวไปส่งโรงพยาบาล นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานเรื่องนี้ แต่แน่นอนจะให้กระทรวงการต่างประเทศตรวจสอบเรื่องนี้ ถ้าเป็นแบบนี้ขอให้รอมีข่าวชัดเจนก่อน เชื่อว่าทุกคนก็ติดตามข่าวอยู่ แต่เมื่อเช้าตนมีประชุมทั้งเช้าจึงยังไม่มีโอกาสได้ติดตามเรื่องนี้ เรามีนโยบายหลักอยู่แล้วในการช่วยเหลือคนไทย และได้มีการพูดคุยกับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้ช่วยติดตามเรื่องการช่วยเหลือตัวประกันที่ยังไม่มีวี่แววว่าจะถูกปล่อยตัวออกมา
ทั้งนี้ เหตุการณ์กลุ่มฮามาสบุกอิสราเอลเริ่มต้นในช่วงเช้าของวันที่ 7 ตุลาคม มีรายงานจากกระทรวงแรงงาน ประเทศไทย ยืนยันชื่อแรงงานไทยในอิสราเอลที่ถูกยิงที่ขา 1 คน และยืนยันแรงงานไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกัน 2 คน เป็นสามีและภรรยากัน ปัจจุบัน (อัปเดตข้อมูลวันที่ 8 พฤศจิกายน) มีรายงานจากกระทรวงการต่างประเทศว่า คนไทยถูกจับเป็นตัวประกันทั้งหมด 25 คน เสียชีวิต 34 คน และบาดเจ็บรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลทั้งหมด 4 คน
