วันนี้ (9 มกราคม) แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมบูรณาการการแก้ปัญหาพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อรองรับการเติบโตของการท่องเที่ยว ร่วมกับ สรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตนลงพื้นที่มาติดตามงาน ซึ่งอย่างที่เห็นปีที่แล้วมีนักท่องเที่ยวตัวเลขใกล้กลับเข้ามาเหมือนเดิมก่อนช่วงการแพร่ระบาดของโควิดแล้ว ถือว่ามีการปรับตัวที่ดี ซึ่งนักท่องเที่ยวเกือบ 1 ใน 4 ของนักท่องเที่ยวทั้งหมดมาจังหวัดภูเก็ต จึงอยากจะให้โฟกัสมากขึ้นในเรื่องของ Premium Destination ด้านการท่องเที่ยว
นอกจากอยากให้ค่าใช้จ่ายต่อหัวของคนภูเก็ตเพิ่มขึ้น เรื่องของ Boat Taxi หากเอกชนเข้ามาช่วยและรัฐบาลสนับสนุน ทั้งใบอนุญาตหรือท่าเรือที่ปลอดภัย ก็จะทำให้เกิดธุรกิจขนาดใหญ่ในภูเก็ตอีกหนึ่งธุรกิจ
นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงการเดินทางในพื้นที่ภูเก็ตว่า ถนนหลักสาย 402 มีปริมาณคนใช้มากขึ้นจึงต้องดูทางออกและทางแก้ไขว่าจะสามารถทำอะไรได้บ้าง จึงสั่งการว่าโครงการที่ผ่านในเรื่องงบประมาณแล้วและกำลังดำเนินการก่อสร้างขอให้เร่งให้แล้วเสร็จ เพราะจะช่วยประชาชนได้เป็นอย่างมาก ขณะเดียวกันก็ต้องทำความสื่อสารกับประชาชนว่าจะปิดถนนแต่ละจุดส่วนใดบ้าง
นอกจากนี้คือ Mass Transport ที่เชื่อมต่อนักท่องเที่ยวจากสนามบินเข้าสู่เมืองด้วย EV Bus หรือรถขนส่งสาธารณะไฟฟ้า ต้องทำความเข้าใจกับประชาชนว่าไม่ได้แย่งหรือทำลายบางอาชีพ แต่เป็นการปรับตัวให้เกิดอาชีพใหม่ๆ ซึ่งการจัดการคมนาคมในระยะสั้นถือเป็นเรื่องสำคัญเนื่องจากใช้เวลาหลายปี ทั้งนี้ ต้องดูว่าการเพิ่มจำนวน EV Bus นั้นใช่คำตอบที่แท้จริงหรือไม่ เพราะหากเพิ่มไปไม่ได้แปลว่าคนที่มีรถจะเลิกใช้รถของตัวเอง จึงอยากพิจารณาเรื่องนี้ให้ดี เพราะไม่เช่นนั้นจะเป็นการใช้งบโดยไม่เห็นผลต่าง
ด้านการท่องเที่ยว และนโยบาย Soft Power นายกรัฐมนตรีระบุว่า กำลังจะเน้นย้ำในเรื่องการจัดให้ประเทศไทยมีเทศกาลด้านการท่องเที่ยวใหญ่ๆ ในพื้นที่ภูเก็ต โดยอยากให้มีการจัดประชุมตำรวจท่องเที่ยวเพื่อให้มีการรีเซ็ตระบบใหม่ อะไรที่ใช้มานานแล้วไม่มีประสิทธิภาพก็ควรที่จะปรับเปลี่ยน เพราะการท่องเที่ยวมีการใช้ AI หรือเทคโนโลยีเข้ามา ทุกอย่างจึงสามารถเช็กได้ผ่านทางโทรศัพท์มือถือ ซึ่งการรีเซ็ตนี้รวมถึงการพัฒนาบุคลากรด้วย
ขณะที่การปราบผู้มีอิทธิพลถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งผิดกฎหมายต่างๆ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจโฟกัสเรื่องนี้จริงจัง เพราะเราไม่อยากให้ประชาชนรู้สึกไม่ปลอดภัยแล้วไปพูดได้ว่าคนมีเงินมีอิทธิพลขึ้นมาก็จบแล้ว ประชาชนไม่ได้รับการดูแล ผู้มีอิทธิพลทำให้ผู้ไม่มีอิทธิพลถูกบี้ เป็นหนี้เป็นสิน ถูกขู่เข็ญเรื่องเงินทอง เรื่องการโดนหลอก ซึ่งเรื่องนี้ค่อนข้างเป็นปัญหาของประชาชน จึงอยากเน้นย้ำให้ใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด เพราะกฎหมายเรามีอยู่แล้ว ไม่อยากให้มีการละเว้น ประชาชนจะได้รู้สึกปลอดภัยและประเทศชาติก็มีระเบียบมากขึ้น
ด้าน โสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต รายงานปัญหาในพื้นที่ว่า มีความกังวลเรื่องการจราจร ซึ่งต้องการผลักดันงบประมาณในหลายส่วนเพื่อมาเติมเต็มการบริการด้านการจราจร
ขณะเดียวกันยังขอให้นายกรัฐมนตรีมอบหมายกระทรวงคมนาคมศึกษารถไฟรางเบา เนื่องจากมีการเรียกร้องมากกว่า 10 ปีแต่ยังไม่ผ่านการศึกษา ซึ่งหากทำสำเร็จจะสามารถเชื่อมต่อสนามบินไปยังพื้นที่เขตเมืองเพื่อแบ่งเบาภาระการเดินทาง ยกระดับภูเก็ตเป็น Smart City อย่างเต็มรูปแบบ
ขณะที่การแก้ไขปัญหาน้ำ รวมไปถึงน้ำเน่าเสีย การจัดการขยะ และการจัดการภัยพิบัติ กรมโยธาธิการและผังเมืองร่วมกับกรมป่าไม้ จัดทำระบบตาข่ายลดแรงต้านของน้ำเพื่อลดการชะล้างหน้าดินและติดตั้งเครื่องเตือนภัยดินโคลนถล่ม ส่วนความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตได้ซักซ้อมแผนการปฏิบัติเพื่อที่จะดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวทั้งทางน้ำและทางบก
ขณะที่การสร้าง Medical Wellness ถือเป็นหนึ่งในสิบเสาหลักของจังหวัด เนื่องจากในพื้นที่กลุ่มจังหวัดอันดามันไม่มีเครื่องฉายแสงมะเร็ง กระทรวงสาธารณสุขจึงจัดสรรงบประมาณ 120 ล้านบาท ดำเนินการก่อสร้างอาคารและจัดซื้อเครื่องฉายแสง แต่ยังไม่เพียงพอในการก่อสร้าง