วันนี้ (24 มิถุนายน) ที่ทำเนียบรัฐบาล แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการปรับคณะรัฐมนตรีว่าขณะนี้ลงตัวแล้วหรือไม่ว่า ลงตัวแล้วไม่มีอะไร ได้พูดคุยกับหัวหน้าพรรคทุกคนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และต่อไปจะเป็นเรื่องของการส่งชื่อเข้าตรวจสอบคุณสมบัติ และเมื่อเรียบร้อยแล้ว ก็ค่อยมีการทูลเกล้าฯต่อไป
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะสามารถนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าได้ช่วงเวลาใด นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไม่แน่ใจเหมือนกัน ต้องรอว่าส่งกลับมาเมื่อไร เนื่องจากส่งรายชื่อเพื่อตรวจสอบคุณสมบัติไปบ้างแล้ว ส่วนรวมไทยสร้างชาติจบแล้วหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า “จบแล้ว ไม่มีอะไร”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กระแสข่าวที่ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยรวมไทยสร้างชาติกดดันให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่ง แพทองธาร กล่าวว่า “โอ้ ไม่จริง ไม่จริงเลยค่ะ ไม่มีการกดอะไรใดๆ เกิดขึ้น และรูปที่ออกมาที่โรงแรมโรสวูดได้มีการพูดคุยกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พรรคร่วมรัฐบาล จริงๆ แล้วให้การสนับสนุนเป็นอย่างมาก และให้กำลังใจ ผ่านไปได้ด้วยดี”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากนี้จะมีเสียงนอกจากพรรคร่วมรัฐบาลเข้ามาเติมเพื่อให้รัฐบาลเข้มแข็งเพิ่มขึ้นหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตอนนี้เสียงของพรรคร่วมรัฐบาลเราโอเค แข็งแรงอยู่
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกระทรวงกลาโหมมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไว้สุดท้ายแล้วจะบอกอีกที ขออนุญาตยังไม่เปิดเผยชื่อใดๆ ทั้งสิ้น แต่ยืนยันว่าจะไม่นั่งควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอย่างแน่นอน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯ ยึดหลักอะไรในการวางบุคคลเข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในสถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จริงๆ แล้วทุกกระทรวง เราต้องรับให้พร้อม เพราะไม่ได้เกิดขึ้นกระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง ต้องช่วยกันบูรณาการ แน่นอนว่าต้องเป็นคนที่สามารถดูแลเรื่องนี้ได้อยู่แล้ว ทุกวันนี้มีรัฐมนตรีช่วยและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทำงานกันอย่างแข็งขันมากๆ ร่วมกับกองทัพ เช่นในพื้นที่ชายแดน ได้มอบอำนาจให้กับกองทัพเพื่อดูหน้างานในการพิจารณา บริหารจัดการให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ซึ่งทุกอย่างราบรื่นดี ก่อนย้อนถามว่าทำไม สื่อมวลชนถึงสนใจกระทรวงกลาโหมเป็นพิเศษ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ในช่วงสัปดาห์หน้าศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณารับหรือไม่รับ คำร้อง สว. กรณีคลิปเสียงนายกฯ ซึ่งอาจจะมีการสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว มีการประเมินเรื่องนี้อย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีการประเมินเรื่องนี้ แต่ถ้าต้องสนับสนุนข้อมูลอย่างไรก็พร้อมให้ข้อมูลและชี้แจง เพราะอย่างคลิปเสียงที่หลุดออกมา ขอยืนยันว่าเป็นเรื่องที่ผู้นำแต่ละประเทศใช้เจรจากันอยู่แล้วและจะเห็นได้ชัดว่า ในคลิปเสียงจริงๆแล้วตนก็ไม่ได้อะไร และไม่ได้ทำให้ประเทศไทยเสียอะไร และจุดนี้เป็นจุดที่เป็นการคุยกัน และทราบอยู่แล้วว่าไม่ควรจะเปิดเผย ในคลิปที่เป็นการสนทนาแบบส่วนตัว ซึ่งตนก็พร้อมที่จะยืนยัน และอธิบายเล่าทุกเหตุการณ์อยู่แล้ว หากต้องอธิบาย
เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงกระแสที่ประชาชนกดดันให้นายกรัฐมนตรีลาออก นายกรัฐมนตรีปฏิเสธการตอบคำถามและเดินออกจากโพเดียมในทันที