;
วันนี้ (14 พฤศจิกายน) อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ลงนามประกาศ ด่วนที่สุด ที่ มท (บกปภ) 0624 /ว115 กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 แจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้อำนวยการจังหวัดทุกแห่ง ให้เตรียมมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ที่มักเกิดขึ้นในช่วงฤดูหนาวต่อเนื่องถึงฤดูร้อนของทุกปี ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนและสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ เพื่อให้การป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ปี 2568 – 2569 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ ‘การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง’ ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2568 – 2576 และระยะ 5 ปีต่อไป ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2568 จึงให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดบูรณาการร่วมกับหน่วยงานทุกภาคส่วนในพื้นที่ ดำเนินการ ดังนี้
1. การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการเชิงพื้นที่
{{LISTSTART}}พื้นที่ป่า: ให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเฝ้าระวังและควบคุมการเผาในพื้นที่ป่าอย่างเข้มงวด พร้อมบังคับใช้กฎหมายและลาดตระเวนต่อเนื่อง{{LISTITEM}}พื้นที่เกษตรกรรม: หน่วยงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำกับการเผาในพื้นที่เกษตร หากฝ่าฝืนตัดสิทธิ์เข้าร่วมโครงการของรัฐ และส่งเสริมการแปรรูปเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรแทนการเผา{{LISTITEM}}พื้นที่ชุมชน: นายอำเภอ กำชับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เฝ้าระวังการเผา และสร้างความเข้าใจให้ประชาชน พร้อมลงโทษผู้ฝ่าฝืน
{{LISTEND}}
2. การป้องกันและลดการเกิดฝุ่นละอองจากแหล่งกำเนิดต่างๆ โดยเฉพาะจากการคมนาคมขนส่ง การก่อสร้าง การเผาในพื้นที่ริมทาง โรงงานอุตสาหกรรม ให้มอบหมายหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม และกระทรวงอุตสาหกรรมในพื้นที่ บังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการตรวจสอบ ตรวจจับ ยานพาหนะควันดำ การตรวจวัดมลพิษทางอากาศจากโรงงานอุตสาหกรรม การควบคุมฝุ่นละอองในพื้นที่ก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ เป็นต้น
3. การดูแลสุขภาพประชาชน ให้มอบหมายหน่วยงานด้านสาธารณสุข จัดหน่วยบริการลงพื้นที่ให้คำแนะนำประชาชนเกี่ยวกับการปฏิบัติตน และการดูแลสุขภาพในช่วงสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) มีค่าสูง การจัดเตรียมห้องปลอดฝุ่น จัดพื้นที่ปลอดภัย (Safety Zone) เพื่อรองรับประชาชนกลุ่มเสี่ยง กลุ่มเปราะบางได้อย่างเหมาะสม
4. การประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้ให้ประชาชน ให้มอบหมายหน่วยงานในสังกัดกรมประชาสัมพันธ์ในพื้นที่ สื่อสารสร้างการรับรู้ให้ประชาชนได้รับทราบเกี่ยวกับสถานการณ์ มาตรการ ข้อกฎหมาย และบทลงโทษกรณีการฝ่าฝืน และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐในทุกมิติ เพื่อให้ประชาชนร่วมมือในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองในพื้นที่
5. กรณีสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน หรือระดับปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นหรือเกินค่ามาตรฐาน ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะผู้อำนวยการจังหวัด ใช้ระบบศูนย์สั่งการแบบเบ็ดเสร็จ (Single Command) ภายใต้พระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 เข้าควบคุมสถานการณ์ อำนวยการ สั่งการ และประสานการปฏิบัติระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ
6. ให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดรายงานสถานการณ์และการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาให้กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติทราบอย่างต่อเนื่อง


