วันนี้ (15 ธันวาคม) ฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เปิดเผยภายหลังเข้ามารายงานสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ให้นายกรัฐมนตรีทราบ โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที ว่า เป็นการหารือเพื่อเตรียมการประชุม สมช. ในวันพรุ่งนี้ (16 ธันวาคม) ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน โดยวาระการประชุมจะมีเรื่องการขอสกัดกั้นการส่งยุทธปัจจัยตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอมาเป็นเรื่องหลัก รวมถึงเรื่องความคืบหน้าในการช่วยเหลือคนไทยที่ต้องการเดินทางกลับจากกัมพูชา
ส่วนเรื่องสายลับและยุทโธปกรณ์สัญชาติจีนที่กองทัพไทยยึดได้จากฝ่ายกัมพูชา รวมถึงการประกาศขยายพื้นที่ใช้กฎอัยการศึก และการประกาศเคอร์ฟิวในพื้นที่อื่นๆ นั้น ฉัตรชัยกล่าวว่า ขอให้รอการประชุมในวันพรุ่งนี้
ทั้งนี้ แหล่งข่าวจากหน่วยงานด้านความมั่นคงยอมรับว่า ศูนย์บัญชาการทางทหารเป็นผู้แจ้งถึงความจำเป็นต้องขอมติจาก สมช. เพื่อจำกัดการส่งออกยุทธปัจจัยที่จะส่งออกทางน่านน้ำไปยังกัมพูชา แม้ว่าพื้นที่ทางบกจะถูกปิดกั้นด้วยการประกาศกฎอัยการศึก แต่ยังมีการส่งออกทางทะเล จากท่าเรืออื่นที่ไม่ใช่จันทบุรีและตราด ซึ่งสินค้าอื่น เช่น สินค้าเกษตร และพลังงาน ยังสามารถขนส่งไปยังกัมพูชาได้ตามปกติผ่านกฎหมายอื่นๆ เนื่องจากยัง ไม่ได้มีข้อห้าม
ก่อนย้ำว่า ด้วยขณะนี้กองทัพเรือไม่มีอำนาจในการจำกัดสินค้าบางชนิดออกจากราชอาณาจักร แม้ว่ากองทัพเรือจะถือกฎหมายทั่วไปอยู่ 20 ฉบับ แล้วก็ตาม แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการนำเข้าหรือส่งออก จึงมีความจำเป็นที่หน่วยงานด้านความมั่นคงจะเสนอให้รัฐบาลขอมติจาก สมช. ในการห้ามส่งออกยุทธปัจจัย ซึ่งต้องใช้ สมช. ตีความคำว่า ‘ยุทธปัจจัย’ ว่าจะมีสินค้าชนิดใดบ้างที่จะมีส่วนในการสนับสนุนให้กำลังทหารจากฝ่ายตรงข้ามมีความแข็งแรงขึ้น จึงจำเป็นต้องริดรอน


