วันนี้ (3 มิถุนายน) เวลา 20.00 น. เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน และภาคประชาชน พร้อมใจกันจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 46 พรรษา 3 มิถุนายน 2567 ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง
โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวคำถวายราชสดุดีและกล่าวนำถวายพระพรชัยมงคลว่า “ขอพระราชทานกราบบังคมทูลพระกรุณาทรงทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท ข้าพระพุทธเจ้า เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า ทั้งที่ได้มาพร้อมกันอยู่ ณ บริเวณมณฑลพิธีแห่งนี้ และที่อยู่ในสถานที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ตลอดจนทั่วโลก มีความปลาบปลื้มปีติเป็นล้นพ้นที่ได้มาร่วมแสดงความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณโดยพร้อมเพรียงกัน เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทที่เวียนมาบรรจบครบรอบอีกวาระหนึ่งในวันนี้
“ปวงข้าพระพุทธเจ้าต่างประจักษ์แจ้งในพระราชจริยวัตรอันงดงาม และพระราชวิริยอุตสาหะของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ในการบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการเคียงข้างพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่ออำนวยสุขสวัสดิ์แก่อาณาประชาราษฎร์ และความวัฒนาสถาพรของประเทศชาติ ทรงตั้งพระราชหฤทัยมั่นที่จะทรงสืบสาน รักษา และต่อยอด การพัฒนาบทบาทของสตรี ตลอดถึงการอนุรักษ์หัตถศิลปกรรมท้องถิ่นไทย ซึ่งเป็นแนวทางการดำเนินการของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง อย่างต่อเนื่อง บังเกิดผลเป็นความชื่นใจและประโยชน์สุขของราษฎรทั้งมวล น้ำพระราชหฤทัยและพระราชจริยวัตรที่แสนประเสริฐงดงามนี้ เป็นเหตุให้ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทสถิตอยู่ในที่สมเด็จพระบรมราชินีของแผ่นดิน และเป็นศูนย์รวมความจงรักภักดีของพสกนิกร สมควรแก่พระราชอิสริยยศที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทุกประการ”
นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า ในศุภวาระอันเป็นมงคลยิ่งนี้ ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานพระราชานุญาต นำพสกนิกรทั้งหลายถวายพระพรชัยมงคล ดังต่อไปนี้
“ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ขอพระราชทานถวายพระพรชัยมงคลด้วยความจงรักภักดี ขออัญเชิญคุณพระศรีรัตนตรัยและอำนาจแห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากล โปรดอภิบาลบันดาลดลให้ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงพระเจริญพร้อมจตุรพิธพรชัย พระเกียรติคุณเกริกไกรแผ่ไพศาล ทรงพระเกษมสำราญ สถิตเป็นมิ่งขวัญร่มเกล้าของปวงข้าพระพุทธเจ้าและเหล่าพสกนิกรตราบกาลนานเทอญ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม”
จากนั้นดนตรีบรรเลงเพลง สรรเสริญพระบารมี ทุกคนร่วมเปล่งเสียงไชโย 3 ครั้ง ดนตรีบรรเลงเพลง สดุดีจอมราชา ก่อนที่นายกรัฐมนตรีนำทุกคนเปล่งเสียงทรงพระเจริญ 3 ครั้ง
